Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ตำรวจเร่งไล่ล่าแก๊งโหดฆ่าเศรษฐีนี แล้วโบกปูนยัดตู้เย็น ล่าสุดพบคนร้ายนำเอทีเอ็มไล่กดเงินร่วมล้าน!

ตำรวจเร่งไล่ล่าแก๊งโหดฆ่าเศรษฐีนี แล้วโบกปูนยัดตู้เย็น ล่าสุดพบคนร้ายนำเอทีเอ็มไล่กดเงินร่วมล้าน!

730
0
SHARE

จากกรณี พบเศรษฐีนีนักปฏิบัติธรรม ถูกฆ่าแล้วนำร่างไปไว้ในตู้แช่เย็นโบกปูนทับในตึกแถวของเธอเอง โดยผู้ตาย คือ น.ส.วรรณี จิระเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐีนีนักปฏิบัติธรรมลูกศิษย์วัดพระธาตุศรีจอมทอง ซึ่งถูกพบกลายเป็นศพ มัดมือมัดเท้า ยัดไว้ในตู้เย็นซุกไว้ในบ้านพักซึ่งเป็นตึกแถว ในตัวเมือง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27ต.ค.62 หลังขาดการติดต่อกับญาติไปหลายวันและออกตามหาจนพบกลายเป็นศพ หลังได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้าน ว่าพบความผิดสังเกตโดยมีกลิ่นเน่าเหม็น ออกมา จากบ้านพักที่เป็นตึกแถวของผู้ตาย

ความคืบหน้าล่าสุด วันทีี่ 29 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวคนร้ายโดยเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และแกะรอยคนร้ายจากจุดต่างๆ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ตู้เอทีเอ็ม สามารถแกะรอยคนร้ายได้พอสมควร โดยพบว่า ผู้ก่อเหตุได้ตระเวนนำเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินสดหลายพื้นที่ด้วยกัน โดยระหว่างกดเงินจะปิดหน้าติดตา มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย และล่าสุด พบว่า ผู้ต้องสงสัยไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ทีบ้านเพ จ.ระยอง โดยคนร้ายจะกดเงินครั้งละ 20,000 บาท ทางตำรวจยังพบว่าภายในบ้านของผู้เสียชีวิตได้ถูกคนร้ายรื้อกล้องวงจรปิดภายในบ้านออกไปทั้งหมดด้วย

พยานรายหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้ตายซื้อตึกและเพิ่งเข้ามาอยู่อาศัยเพียงลำพังได้ไม่กี่เดือน นานๆ จะมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่มาปฏิบัติธรรมด้วยกันที่วัดแวะมาพักบ้าง ซึ่งโดยปกติผู้ตายจะเป็นคนค่อนข้างสันโดษไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร

ในแต่ละวันจะออกไปปฏิบัติธรรมที่วัดและไปใช้บริการร้านนวดแผนโบราณแล้วกลับมาบ้าน กระทั่งช่วงประมาณหลังวันที่ 13 ต.ค.62 เริ่มสังเกตพบ ความผิดปกติว่าผู้ตายหายไป และไม่ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน เหมือนที่เคยเห็นทุกวัน รวมทั้งรถยนต์ เก๋ง ยี่ห้อ BMW สีขาวป้ายแดง ของผู้ตายก็หายไปด้วย รวมทั้งมีเลือดไหลและกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากตึกดังกล่าว จึงได้มีการแจ้งไปยังเทศบาล และประสานไปยังญาติของผู้ตายที่อยู่ต่างจังหวัด

กระทั่งวานนี้ ทางญาติผู้ตายได้เดินทางมา พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเปิดเข้าไปดูในบ้าน ซึ่งตัวเองที่เป็นช่างทำกุญแจได้ช่วยเปิดประตูเข้าไป และพบศพดังกล่าว ที่ถูกมัดมือมัดเท้า เอาถุงดำครอบหัวยัดใส่ตู้เย็น และโรยปูนทับ สร้างความตระหนกตกใจและหวาดผวาให้กับ ชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะเหตุดังกล่าวเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอจอมทองมาก่อน

อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามจับกุม ตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้ น่าจะต้องวางแผนมาเป็นอย่างดี และน่าจะมีความสนิทสนมกับผู้ตายพอสมควร เพราะกุญแจล็อคเข้าออกตึกดังกล่าวเป็นระบบดิจิตอลที่ไม่สามารถ ปั๊มลูกกุญแจได้ง่ายๆ และหลังเกิดเหตุยังได้เอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปด้วย พร้อมทั้งส่งข้อความไปบอกญาติ ของผู้ตายว่า ผู้ตายจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างประเทศ

ด้านพยานสาวอีกราย ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้ให้การว่า ผู้ตายนั้นได้มาซื้อตึกแห่งนี้พร้อม ๆ กับตน เขาตบแต่งบ้านอย่างดีเลย เป็นคนมีฐานะ และก่อนมาพบศพนั้น สองอาทิตย์ก่อนเห็นเลือดไหลออกมาจากช่องประตู สงสัยว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาแน่ จึงได้แจ้งให้กับผู้ใหญ่บ้านและตรวจมาตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า บ้านนั้นทำประตูอย่างดี ไม่สามารถเข้าได้ ก็ต้องปล่อยไปปรากฏว่า ผ่านมาจนเลือดแห้ง และกลิ่นก็เหม็นเรื่อย กระทั่งญาติของผู้ตายมาเปิดดูกับเจ้าหน้าที่ก็พบว่าเป็นศพดังกล่าว สำหรับผู้ตายนั้น มักจะนำเอาคนสนิทมาด้วยมาพักที่บ้านแห่งนี บางครั้งก็ 2-3 คน บางครั้งก็มาาคนเดียว และผู้ตายจะใส่ชุดสีขาวตลอด

ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากเพจ อีจัน ว่า ชุดสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 5 กำลังเดินทางไปจังหวัดระยอง เพื่อล่าตัว “ไอ้ ต.” คนขับรถสองแถวสีแดงสายจอมทอง เพราะมีพยานแวดล้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จนเชื่อได้ว่า “ไอ้ ต.” น่าจะมีส่วนรู้เห็นในการเสียชีวิตของวรรณี ซึ่งพยานยังระบุด้วยว่า ข้อมือปริศนาที่ยื่นออกมาจากรถของวรรณีนั้น มีนาฬิกาข้อมือที่คล้ายกับนาฬิกาของ “ไอ้ ต.” และยังยืนยันอีกว่า ภาพจากตู้เอทีเอ็มที่เห็นนเฉพาะท่อนล่างนั้น เป็นรูปพรรณที่คล้ายคลึงกับ “ไอ้ ต.” เนื่องจาก “ไอ้ ต.” มีลักษณะผอมสูง รวมทั้งรองเท้าผ้าใบและกางเกงด้วย