การศึกษาเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการหางานในยุคปัจจุบัน อันนี้ใครๆ ก็รู้ ดังนั้นพ่อแม่ของเราจึงอยากส่งเสียลูกของตนเองให้เรียนจบระดับชั้นสูงๆ เพื่อที่จะได้มีงานดีๆ ทำ แต่ทว่าค่านิยมนี้มันตอบโจทย์กับทุกคนจริงหรือ? เมื่อหนุ่มมาเลย์วัย 32 ปี คนหนึ่งออกมาเผยถึงชีวิตของเขาแบบน่าหดหู่ถึงการจบปริญญาเอกของเขา แต่จน ณ วันนี้ตัวเขาเองก็ยังหางานทำไม่ได้ ต้องไปขับ Grab Food หาเงินประทังชีวิตไปวันๆ โดยเขาเล่าให้ฟังว่า…
“ตอนนี้ผมอายุ 32 ปี ผมควรต้องเริ่มมีเสถียรภาพทางการเงินบ้างแล้ว แต่ไม่เลย ผมทำได้แค่เลี้ยงปากท้องตัวเองไปวันๆ เท่านั้นเอง จะช่วยค่าใช้จ่ายพ่อแม่หรือทุนการศึกษาของน้องๆ อีก 3 คน ผมก็ทำไม่ได้”
เขายอมรับว่าเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจเรียนต่อหลังจบปริญญาตรี นั่นก็เพราะว่าตัวเขาเองเป็นคนที่ชอบการเรียนหนังสือเอามากๆ แต่พอมาถึงจุดนี้แล้วเขาคิดว่าเราไม่ควรทำอย่างนั้น
เขาคิดว่าแม้จะชอบเรียนมากแค่ไหน แต่เราก็ต้องพักการเรียนบ้าง หลังจากจบปริญญาตรีแล้วเราควรต้องออกไปหางานทำก่อน ถ้าเราถนัดในงานที่ทำแล้วก็ค่อยคิดเรื่องเรียนต่อหลังจากนั้น ถ้าไม่อยากต้องเผชิญแบบเดียวกันนี้
“ความรู้ไม่ได้มีแต่ในมหาวิทยาลัย แต่มันยังมีอยู่ในบริษัท โรงงาน หรือแม้แต่ตามข้างทาง เราต้องไม่ลืมที่จะออกไปขวนขวานเรียนรู้ในส่วนนั้นด้วย
เพราะไม่แน่ว่าสุดท้ายแล้ว การเรียนต่อก็อาจเป็นแค่ความพยายามที่ถูกเก็บไว้ในหนังสือเล่มหนา ถูกวางไว้ในห้องสมุด โดยที่มันอาจไม่เคยถูกอ่านอีกเลยก็ได้”
ที่มา worldofbuzz
