คลิกอ่านข่าวของ BBC Thai
อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของดีเอสไอว่ารวบรัดสอบสวนรวดเร็วจนผิดสังเกต
“จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดูหลักฐานว่ามีอะไรบ้าง ทำไมถึงเร่งรีบสอบสวนภายใน 6 เดือนจึงทราบเรื่องราวทั้งหมด จนขนาดศาลอาญาทุจริต ออกหมายจับข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต ทั้ง ๆ ที่ศาลอาญาทุจริตมีอำนาจสอบสวนในคดีทุจริต ไม่ใช่คดีอาญา” นายชัยวัฒน์กล่าวกับสื่อมวลชนจำนวนมากที่ติดตามทำข่าวการมอบตัวของเขากับพวกในวันนี้
นายชัยวัฒน์ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงฐานความผิดในหมายจับด้วยว่า ศาลที่ดีเอสไอขอหมายจับนั้นเป็นศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง “ซึ่งเป็นศาลที่ชี้ว่าผมทุจริต ไม่ได้ชี้ว่าผมเป็นคดีอาญา หรือผมไปฆ่าใคร”
ช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ เขาได้ตำหนิการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่าได้ทำลายชีวิตของเขาและครอบครัว รวมถึงเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน โดยยังไม่ทราบข้อเท็จจริง
“สื่อสร้าง story เรื่องราวต่าง ๆ จนชีวิตข้าราชการของผมกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน แทบจะไม่มีที่ยืน สิ่งที่ผิดชอบชั่วดี ทุกคนยังไม่รู้เลยว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก สิ่งไหนจริงสิ่งไหนเท็จ แล้วหลักฐานที่มีมามันจริงเท็จอย่างไร สื่อก็ต้องนำเสนอตามความจริง ผมเรียนเลยว่าวันนี้ ชีวิตข้าราชการของผม ต้องมายืนอยู่แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่พวกผมคือผู้พิทักษ์ป่า รักษามาตลอดชีวิต ทุ่มเทชีวิต ร่างกายและจิตใจเพื่อแผ่นดิน แต่กระแสที่ออกมาทำให้ผมเป็นจำเลยสังคม โดยเฉพาะในโลกโซเชียล ทำกันแบบนี้ ให้ความเป็นธรรมกับผมแค่ไหน ผมยืนยันว่าผมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมมาตลอด” นายชัยวัฒน์กล่าว
นายชัยวัฒน์ระบุว่า เขาขอโอกาสที่จะได้ทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าต่อไป
“ให้โอกาสพวกเราในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าที่ยืนหยัดที่จะปกป้องทรัพยากรและป่าไม้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แค่ไหน ถ้าผมยังอยู่ ผมสอยร่วงทุกคน”
matemnews.com
12 พฤศจิกายน 2562