วันที่ 12 พ.ย.62 จากเหตุ ยิงทนายความ ที่ศาลจังหวัดจันทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่าที่ร.ต.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ กล่าวว่า เป็นเรื่องอุกฉกรรจ์ร้ายแรงที่สุดที่เกิดในศาล และกระทำกับทนายความ นับจากคดีวางระเบิดซีโฟร์ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 30 ปีก่อน
ทั้งนี้ การทำงานของทนายความเป็นการกระทำแทนตัวความ เพื่อปกปักษ์รักษาประโยชน์ตัวความในคดีแพ่ง ซึ่งหากคู่ความไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ไปยื่นคำร้องคำคัดค้าน หรืออุทธรณ์ หรือฎีกา ในระบบต่อไปได้ตามกฎหมาย ไม่ควรใช้ความรุนแรงมาแก้ปัญหา
“ผมรู้สึกเสียดายทนายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ รู้จักกันมานาน เป็นทนายที่ตั้งใจทำงานและเป็นที่ปรึกษากฎหมายและทนายความให้คนมีชื่อเสียงมากมาย เคยร่วมงานในสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ ที่เพิ่งพ้นสมัยไป” ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์ กล่าว
ว่าที่ ร.ต.ถวัลย์ กล่าวอีกว่า ถือเป็นกรณีที่ต้องทบทวนเรื่องความปลอดภัย ซึ่งสภาทนายความพยายามผลักดันให้ทนายความมีและพกพาอาวุธปืนได้ เพราะทนายต้องเดินทาง อาจไปพบคนที่มุ่งปองร้าย หรือชิงทรัพย์ได้ รวมทั้งทนายต้องถือเงินค่าธรรมเนียมศาลต่างๆ สภาทนายความจึงเตรียมจัดสวัสดิการจัดหาปืนให้ทนายพร้อมใบอนุญาตพกพา ใช้ป้องกันตัวเท่านั้น แต่ห้ามพกเข้าไปในบริเวณศาล
เตรียมเพิ่มกำลัง คอร์ทมาแชล 300 นาย ดูแลความปลอดภัยในศาล
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยรัดกุมบริเวณศาล ว่า จากเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ผ่านมา เรากำลังตรวจสอบให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง เพื่อมาตรการความเข้มงวดรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาลที่รัดกุม โดยการดูแลความเรียบร้อยในศาลมีด้วยกัน 3 ส่วน ส่วนผู้ต้องขังจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จากกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมดูแลความปลอดภัยบริเวณศาล และในส่วนของศาลเองมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่จัดสรรการจ้างมาจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก(อผศ.) ซึ่งไม่มีอาวุธประจำกายจะดูแลความเรียบร้อยทั่วไปบริเวณศาล ซึ่งปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัดนั้นก็มี แต่เราก็ขอบคุณทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และ ตร. ที่ร่วมจัดเจ้าหน้าที่มาดูแล อย่างไรก็ดีส่วนนี้ก็ต้องประสานความร่วมมือทุกส่วนต่อไป
ขณะที่ในส่วนของศาลนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมกำลังพัฒนาระบบเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือ คอร์ทมาแชล (COURT MARSHAL) ซึ่งปัจจุบันนี้มีข้าราชการที่รับโอนมาผ่านการฝึกอบรมพร้อมปฏิบัติหน้าที่แล้วทั้งสิ้น 35 ราย โดยในปี 2563 เราจะคัดเลือกบุคคลให้ได้อย่างน้อย อีก 300 คน เพื่อที่จะนำอัตรากำลังในส่วนนี้ที่ศาลจัดดำเนินการเอง กระจายไปประจำการยังศาลภาคต่างๆทั่วประเทศที่มีอยู่ 275 แห่ง ซึ่งตั้งเป้าว่าจะจัดกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือคอร์ทมาแชล ประจำศาลภูมิภาคแต่ละศาล 1-2 นาย ก็จะเป็นหนึ่งในการแก้ปัญหาอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยของศาลต่างๆ ด้วยความเข้มงวดรัดกุมยิ่งขึ้น
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เผยเมื่อช่วงบ่ายว่าได้รับแจ้งว่า เวลา 09.00 น. วันนี้ เกิดเหตุยิงกันในห้องพิจารณาคดีที่ 2 ของศาลจังหวัดจันทบุรี โดยในเบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีผู้ถูกยิงจำนวน 5 ราย ประกอบไปด้วย 1.นายบัญชา ปรณีศณาภรณ์ (เป็นโจทก์ที่ 2 และในฐานะทนายโจทก์ ที่ 2 และ 3) 2.นายวิจัย สุขรมย์ (ทนายฝ่ายโจทก์) 3.นางสุภาพร ปรณีศณาภรณ์ (ภริยานายบัญชา) 4.นายวิชัย อุดมธนภัทร (ทนายฝ่ายโจทก์) และ 5.พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ จำเลยที่ 3 เป็นผู้ก่อเหตุยิง 4 รายแรก แต่ตนเองก็ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้บาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุ ส่งไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี ต่อมาได้รับรายงานว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายบัญชา ปรณีศณาภรณ์, นายวิจัย สุขรมย์ และ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ (ผู้ก่อเหตุ)
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้น สืบเนื่องจากคู่ความทั้งสองฝ่ายพิพาทกันหลายคดีต่อเนื่องมานานหลายปี เริ่มต้นจากคดีแพ่งพิพาทเกี่ยวด้วยที่ดิน และทั้งสองฝ่ายมีการฟ้องคดีอาญากันอีกหลายคดีรวมถึงคดีที่มีนัดพิจารณาวันนี้ด้วย โดยคดีนี้เป็นการฟ้องคดีอาญา ข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ อยู่ระหว่างการสืบพยานฝ่ายจำเลย โดยได้รับรายงานว่าในการพิจารณาคดีที่ผ่านมามีการโต้เถียงกันของทั้งสองฝ่ายอยู่บ่อยครั้ง ขณะเกิดเหตุวันนี้องค์คณะผู้พิพากษายังไม่ได้ขึ้นนั่งพิจารณาคดี เนื่องจากคู่ความในคดียังเดินทางมาไม่ครบ ในช่วงที่เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์เดินออกจากห้องพิจารณาคดี จำเลยที่ 3 (พล.ต.ต.ธารินทร์) ได้ก่อเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาลได้รับบาดเจ็บ
สำนักงานศาลยุติธรรมขอเรียนว่า จะดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อปรับปรุงมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาลและบุคลากรที่ทำงานอยู่ในอาคารศาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับภาพเหตุการณ์ความรุนแรงภายในศาลนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมขอให้สื่อมวลชนและประชาชนงดเผยแพร่ภาพดังกล่าวเพราะอาจจะกระทบสิทธิผู้อื่นและเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลได้
ที่มา ไทยรัฐ, แนวหน้า,