วันที่ 14 พ.ย.62 ช่วงเช้าที่ผ่านมาหน่วยเฉพาะกิจยะลาสนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 จุด ใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง กรงปินัง และบันนังสตา จ.ยะลาเพื่อขยายผลการสืบสวน ตามเบาะแส และหลักฐานจากพยาน และได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุยิงถล่มป้อม ชรบ.ลำพะยา ต.ลำพะยา อ.เมือง ยะลา เมื่อคืนวันที่ 5 พย.62 ที่ผ่านมา ควบคุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 5 ราย และนำตัวมายัง ฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15224 วัดลำใหม่ เพื่อทำประวัติ ก่อนที่จะนำตัวทั้ง 5 รายไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ลำใหม่
เจ้าชุดสืบสวนและติดตามกลุ่มคนร้าย พบว่า กลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ ได้ใช้สถานบันการศึกษาแห่งหนึ่งใน ต.ลำใหม่ เป็นสถานที่วางแผนและรวบรวมกำลัง ก่อนลงมือก่อเหตุ และหลังก่อเหตุ ก็มารวมตัวเพื่อแยกย้ายหลบหนี
ขณะที่แผนการปิดล้อมเทือกเขานางจันทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายบางส่วนได้หลบหนีขึ้นไปหลังก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกประกาศประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ใกล้เคียงเขานางจันทร์ ขอความมือประชาชนงดเดินทางขึ้นไปยังเขานางจันทร์ เป็นการชั่วคราว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการติดตามกลุ่มคนร้าย
สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยว่า จากที่ได้ทำงานมาเกือบ 1 อาทิตย์ มีพยานหลักฐานว่า ผู้ก่อเหตุยิงใส่ป้อมจุดตรวจของชุด
“วันนี้ที่สามารถยืนยันตัวคนร้ายที่เข้ามาปฎิบัติการได้แล้วจำนวน 2 รายและจะมีการขอหมายจับในวันนี้ ซึ่งเป็นผลจากการตรวจดีเอ็นเอที่จะปฎิเสธไม่ได้ และเป็นผู้ต้องหาที่เคยมีหมายจับมาแล้ว จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุที่มีรอยเลือดเยอะมาก หลังจากที่ตัดรอยเลือดของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บออกไป 15 คน ก็ยังเหลือรอยเลือดอีก 5 คนที่ยังระบุตัวไม่ได้
5 คนที่ไม่ใช่คนเจ็บและคนเสียชีวิต ก็เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ และ 1 ใน 5 ที่พิสูจน์ทราบได้ เป็นคนที่จะออกหมายจับในวันนี้ทั้งสองคน คือ นายซะอุดี ติงอูเซ็ง มีหมายจับในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่พบเลือดในที่เกิดเหตุ และนายนัสรูเลาะห์ สะมะ มีหมายจับในคดีความมั่นคง ที่ อ.กาบัง และอ.ยะหา จ.ยะลา ที่พบดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ และยังมีดีเอ็นเอที่ตรวจสอบได้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว
ที่มา ข่าวเวิร์คพ้อยท์