วันที่ 15 พ.ย.62 จนท.สารวัตรงานช่างเครื่องยนต์ ตรวจพิสูจน์ กองกำกับการ 5 บก.จร. นำผู้เสียหาย ที่ถูกรถฟอร์จูนเนอร์ ของพล.ต.สุรศักดิ์ จิตต์บุญ อดีตนายพล เฉี่ยวชน เพื่อเทียบเคียงร่องรอยการชนที่เกิดขึ้น
ในระหว่างการตรวจพิสูจน์นั้น พล.ต.สุรศักดิ์ ได้เดินมาที่รถ ได้กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะพูด และจะรับผิดชอบเฉพาะในส่วนที่ตัวเองทำผิดเท่านั้น พร้อมกล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ลงมาจากรถ เพราะว่า กลัว ที่มีรถจักรยานยนต์บนหลายสิบคันขี่มารุมที่รถของตน และยังมาทุบรถตนอีก เป็นใคร ใครก็ไม่กล้าลง เพราะกลัวจะได้รับอันตราย และขณะเกิดเหตุตนยอมรับว่า ไม่รู้ว่ารถเฉี่ยวชน แต่หลังจากที่ตกเป็นข่าว ยอมรับรู้สึกเครียดมาก เพราะโดนรุมจากสื่อ ก่อนนำหนังสือพิมพ์ปิดหน้าตนเอง
ด้านนายอนันต์ จันทร์ภู่ คันแรกที่เป็นคู่กรณี ระบุว่า วันนี้ตำรวจเรียกมาเพื่อให้ข้อมูลและให้ตำรวจงานช่างเครื่องยนต์ได้ตรวจพิสูจน์ร่องรอยการชน ยืนยันไม่ติดใจเอาเรื่อง ส่วนนายวรายุทธ ปิ่นใจ เจ้าของรถจักรยานยนต์ฟิลาโน่ ที่ไปขวางด้านรถฟอร์จูนเนอร์ 1 ในพลเมืองดี และผู้เสียหาย เปิดเผยกับทีมข่าวหลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า แจ้งความเพิ่มในข้อหา ทำร้ายร่างกายเพิ่มอีก 1 ข้อหา เนื่องจาก เมื่อวันที่เกิดเหตุค่อนข้างชุลมุน ทำให้เข้าใจว่า รถโดนชนขณะตนเองลงจากรถแล้ว แต่เมื่อได้เห็นคลิปที่มีผู้บันทึกไว้ จึงชัดเจนว่า รถจักรยานยนต์ถูกชนขณะตนนั่งอยู่บนรถ
ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา อดีตนายพล ได้เดินทางกลับไป ขณะที่ผู้เสียหายยังอยู่ระหว่างให้ปากคำเพิ่มเติม ในข้อหาประทุษร้ายร่างกาย ที่เข้าแจ้งความเพิ่ม ซึ่งเบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้พูดคุยกันโดยตรง
พ.ต.อ.ปรเมษฐ์ โพยนอก ผกก.สน.คลองตัน ให้ข้อมูลว่า คดีนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คดีที่เกิดหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดี ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และชนแล้วหนี ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้ขอยื่นประกันตัวให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปในวงเงิน 15,000 บาท ไปตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว การดำเนินการในส่วนนี้ต้องรอผลตรวจสอบรถคู่กรณี ทั้ง 3 คัน เพื่อนำมาประกอบสำนวน
ส่วนที่ 2 เป็นส่วนที่ผู้เสียหายขี่รถฟิลาโน่ เข้าแจ้งความเพิ่ม ซึ่งในส่วนนี้สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ พนักงานสอบสวนไม่จำเป็นต้องส่งฟ้องศาล อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้เรียกคู่กรณีทั้งหมดมา สอบปากคำเพิ่มเติม และมีการตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชน ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน
ที่มา ข่าวช่อง 3