นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบถ่ายทอดสดออนไลน์ หรือ สตรีมมิ่ง (Streaming ) กับ ผอ.ประจำศาลและสำนักงานศาลทั่วประเทศ โดยมี นายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจําสํานักประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการวางระบบรักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรม นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เข้าร่วมประชุมด้วย หลังประชุมแล้ว นายสราวุธ แถลงข่าว ว่า
“ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ศาลจังหวัดยะลา จนถึงศาลจังหวัดจันทบุรี ผมได้ส่งเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือคอร์ทมาแชล (Court Marshal) ลงตรวจในพื้นที่พร้อมให้ทำรายงานส่ง โดยได้นำรายงานดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต และที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม หรือ ก.ศ. แล้ว ในที่ 25 พ.ย.2562 จะรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม หรือ ก.บ.ศ. เรื่องมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยได้กำชับ พร้อมออกมาตรการ หนังสือเวียนไปยังศาลทั่วประเทศว่าด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัย 30 กว่าข้อ เพื่อที่จะใช้เป็นแนวทางทำงานร่วมกันระหว่างกรมราชทัณฑ์-ตำรวจ โดยจะอัพเดตมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมผู้ต้องหา/จำเลย ซ โดยพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 16 ศาลจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลทั้งหมด ศาลต่างจังหวัดจะมีตำรวจในพื้นที่สังกัด สตช. ควบคุมผู้ต้องหา/จำเลยที่มาศาล ที่ผ่านมาบางครั้งมาตรการอาจจะหย่อนยานหรือเกิดปัญหาขัดข้องเราจึงต้องมีการประสานงานและเข้มงวดมากขึ้น ส่วน รปภ.ที่มาจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ (อผศ.) จะต้องมีการกำชับให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น โดยวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.2562 ได้เชิญ พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นกรรมการ ก.ศ. มาเป็นวิทยากรอบรมบทบาทหน้าที่การรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.)มาช่วยอบรมเรื่องการตรวจค้นวัตถุอันตราย ที่จะใช้มาตรฐานเดียวกับสนามบินด้วย ก่อนหน้านี้ ผมได้เรียกประชุมคอร์ทมาแชล ถึงบทบาท ตาม พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตำรวจศาลฯ ซึ่งมาตรา 5 (1) บัญญัติให้มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยบุคคล-ทรัพย์สินในบริเวณศาล ซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญและเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการก่อนเรื่องอื่น โดยหลังจากที่เกิดเหตุหลายครั้ง ผมให้แต่ละศาลไปสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัย ทั้งเรื่องอุปกรณ์/สถานที่/บุคคล/ระบบในการบริหารจัดการ เพื่อจะประมวลสถานการณ์เครื่องมืออุปกรณ์ และปัญหาเชิงกายภาพว่าจะต้องแก้ไขอะไรบ้างในส่วนของอัตรากำลังคอร์ทมาแชล ขณะนี้คณะกรรมการศาลยุติธรรม(ก.ศ. ) มีมติอนุมัติให้มีประจำทุกศาลทั่วประเทศแล้วกำหนดกรอบอัตรากำลัง 1,180 คน เพิ่มจากจำนวนเดิมตั้งไว้ 309 นาย โดยให้ดำเนินการภายในปีงบประมาณ ปี 2563 ทั้งนี้ช่วงแรก ผมจะดำเนินการเพิ่มอัตรากำลังคอร์ทมาแชล ให้ได้ 100 อัตราก่อนภายในวันที่ 1 เม.ย.2563 โดยเรื่องงบประมาณ สำนักงานศาลฯ จะขอแปรญัตติที่เคยของบประมาณไว้สำหรับตำรวจศาล 309 อัตราแล้วไม่ได้รับการจัดสรร สำนักงานศาลฯ จะของบประมาณจากรัฐบาล 540 ล้านบาท ภายในพรุ่งนี้ การเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุม ก.ต.ให้ข้อสังเกตไว้ว่า มีการนำข้อมูลเหล่านั้นไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้มีผลในการบังคับใช้กฎหมาย จึงขอให้มีการแจ้งไปยังหน่วยงานอื่นๆให้กำชับด้วยว่าการนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนต้องรับผิดชอบด้วย เรื่องกล้องวงจรปิดนั้นเราจะติดตั้งกล้อง CCTV ในห้องพิจารณาทั้งสิ้นจำนวน 2,112 ห้อง ขณะนี้ได้เริ่มติดตั้งไปแล้วในศาลจังหวัดนนทบุรี , ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี, ศาลแขวงนนทบุรี โดยกำชับว่าต้องแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2563 หรืออย่างช้าจะต้องไม่เกินเดือน มี.ค. 2563 ส่วนกล้องวงจรปิดหน้าห้องพิจารณาก็ให้ตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ หากกล้องมีปัญหาต้องรีบซ่อมแซม หลังจากเกิดเหตุในศาลหลายจังหวัด ผมขอชมเชยศาลจังหวัดบึงกาฬ , ศาลจังหวัดอ่างทอง และ ศาลจังหวัดเกาะสมุยด้วย ที่รายงานการตรวจค้นอาวุธอันตรายมา ตอนนี้ผมได้ตั้ง LINE กลุ่มของการรักษาความปลอดภัยเพื่อยกระดับมาตรฐาน หากมีปัญหาข้อขัดข้องใดสามารถแจ้งมาที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยสำนักงานศาลยุติธรรมได้ทันทีW
นายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจําสํานักประธานศาลฎีกา ประธานคณะกรรมการวางระบบรักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรม แถลงว่า การจัดสรรเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือคอร์ทมาแชลเพิ่มเติมเราไม่ได้รับจากตำรวจหรือทหารเพียงอย่างเดียว แต่มีการให้ยื่นแบบโยกย้ายเพิ่มเติมโดยให้ข้าราชการศาลยุติธรรมที่มาดำรงตำแหน่งยื่นเข้ามาได้ แต่ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในระเบียบ ถ้าหากได้ย้ายมาก็จะมีการฝึกอบรมแบบเข้มข้นและได้ไปปฏิบัติหน้าที่ทุกศาลทั่วประเทศ
นายสุริยัณห์ โฆษกศาลยุติธรรม แถลงว่า “การรายงานข้อมูลให้มาถึงส่วนกลางอย่างรวดเร็ว ปกตินอกจากการรายงานผ่านโปรแกรมภายในสำนักงานศาลยุติธรรม หรือการพิมพ์รายงานสถานการณ์ที่ทำเป็นรูปแบบ หากเป็นกรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน ขอให้ลดขั้นตอน โดยให้รีบรายงานมายังผมโดยตรงทันที ทั้งทาง LINE หรือโทรศัพท์ แล้วหลังจากนั้นจึงรายงานเป็นรูปแบบตามมาอีกครั้ง เราต้องเน้นความรวดเร็วเนื่องจากต้องบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้น รวมถึงทราบปัญหาและหาทาแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”
matemnews.com
19 พฤศจิกายน 2562