จากกรณี เด็กสาววัย 15 ปี พร้อมผู้ปกครอง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง ฐานความผิด
กรรโชกทรัพย์ ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จและกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังมีพฤติกรรมล่อซื้อจับกุมกระทงลายการ์ตูนแมว
การ์ฟิลด์-ลีรัคคุมะ ถูกเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาทแต่เจรจาต่อรองเหลือ 5,000 บาท และยอมถอนคดีไป
ขณะเดียวกัน มีผู้เสียหายกว่า 50 คน ถูกกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์กลุ่มเดียวกันล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หลากหลายประเภท เช่น เสื้อ แก้วน้ำ ซองพลาสติกใส่โทรศัพท์หลากหลายตัวการ์ตูน เช่น โดราเอม่อน แมวคาร์ฟิลด์ วันพีช ถูกเรียกเงินค่าเสียหายตั้งแต่ 20,000-50,000 บาท บางรายสูงสุด 100,000 บาท มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับชุดพนักงานสอบสวนที่ตำรวจภูธร จ นครราชสีมา ซึ่งมีการแต่งตั้งชุดพนักงานสอบสวนและสืบสวนขึ้นมาเฉพาะกิจดูแลคดีนี้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีที่ จ.นครราชสีมา มีผู้เสีย
หายหลายคน ส่วนใหญ่เป็นคดีเก่าที่เกิดขึ้นนานแล้ว หลังแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยาน
หลักฐานให้รัดกุม ไม่เหมือนคดีที่ จ.มหาสารคาม ซึ่งมีคดีเดียว ตำรวจจึงออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาได้รวดเร็ว ส่วนคดี
เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกล่อซื้อจับกุมกระทงละเมิดลิขสิทธิ์เป็นคดีใหม่ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับตัวแทนลิขสิทธิ์ ทราบ
ว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลนครราชสีมา แต่ศาลพิจารณายกคำร้อง จึง
ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
ขณะที่ภาพรวมของคดีทั้งหมด ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี รอง ผบก.ภ นครราชสีมาเป็นหัวหน้าชุดพนักงาน
สอบสวน และแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.หัสพงศ์ เติมศิริตังคโณบล รองผบก.สส.ภาค 3 เป็นผู้มีหน้าที่ให้ข่าวเรื่องนี้ ด้าน พ.ต.อ.หัส
พงศ์ กล่าวสั้นๆ ว่า คดีละเมิดลิขสิทธิ์ที่โคราชมีหลายคดี ผู้เสียหายหลายราย ต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานจนถึง
ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด