“สุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ”…แถลงข่าวเก๋ๆ “มีมติเอกฉันท์โดยที่ไม่มีการโหวต”

หลังเสร็จประชุม คณะกรรมการวัตถุอันตราย  ที่ได้เห็นชอบให้ขยายการแบนสารอันตราย 2 ชนิด ออกไป 6 เดือน และยกเลิกการแบนสารไกรโฟเซต แล้ว  นายสุรยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รมว.อุตสาหกรรม พปชร.ในฐานะประธานคณะกรรมการชุดนี้ได้กลับมาประชุมสภาผู้แทนราษฎร  กระทั่งเวลา 19.40 น.ก็ได้ให้สัมภาษณ์คณะนักข่าวที่สภา  โดยนักถามว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่าหลังจากนี้หากเกิดผลเสียขึ้นในเรื่องการแบนสารพิษก็จะให้นายสุริยะรับผิดชอบ มีความเห็นอย่างไร นายสุริยะ ตอบว่า

“ยินดีรับผิดชอบ เพราะเราทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ วันนี้คณะกรรมการทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ เพราะหากให้มีการแบนสารพิษทันทีตามมติ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2562   โดยจะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ธ.ค. 2562 ระยะเวลาเพียง 30 กว่าวัน สารที่ตกค้างที่ยังอยู่กับพี่น้องประชาชน  พี่น้องเกษตร และร้านค้ายังครอบครองอยู่ ตัวเลขรวมแล้วมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ถ้าเราจะห้ามทันทีตัวเลขดังกล่าวเราจะทำอย่างไร จะมีวิธีชดเชยเกษตรกรและร้านค้าอย่างไร เป็นเรื่องที่ทุกคนห่วงใยความปลอดภัยของสุขภาพอนามัย การจะมีมาตรการอะไรต่างๆ มันก็ต้องมีระยะเวลาให้กับพี่น้องประชาชนและส่วนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เตรียมพร้อม แม้กระทั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ยืนยันจะให้มีการแบนทันทีในที่ประชุมครั้งแรก แต่มาครั้งนี้เมื่อฟังเหตุผลของทุกฝ่ายแล้วก็เลยมีความเห็นว่าจะแบนทันทีไม่ได้ และมีมติให้เลื่อนออกไปW

นักถามแย้งว่า แต่ นายอนุทิน ชาญวีระกูล รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ยืนยันว่าตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมประชุม 2 คนบอกนายอนุทินว่าในการประชุมไม่ได้มีการลงมติ นายสุริยะ ตอบว่า

“ไม่เป็นความจริง เพราะว่าผมได้ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นมติชัดเจนบนจอว่ามติคืออะไร  หากไม่ทำอย่างนั้นต่างคนอาจเข้าใจไม่ตรงกัน หากจำไม่ผิดจะให้มีการเลื่อนไปถึงวันที่ 1 มิ.ย.2562  ทุกคนก็เห็นชัดเจน อีกทั้งในที่ประชุมผมได้สอบถามว่ามีใครที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่  ทุกคนก็เห็นด้วย อีกทั้งบางคนยังอยากจะให้มีการเลื่อนออกไปให้นานกว่านั้นอีก  เรื่องการลงมติผมไม่ทราบว่าทางฝั่งโน้นได้ข้อมูลมาจากไหน ก็ให้ไปสอบถามจากกรรมการในที่ประชุมได้เลย”

นักข่าวถาม  มติดังนี้หลายคนมองว่าเหมือนเป็นการหักหลังมติของพรรคภูมิใจไทย นายสุริยะ ตอบ

“ผมเชื่อว่าไม่ใช่เป็นมติที่หักหลัง แต่เป็นเรื่องของการทำงานร่วมกัน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เป็นการห่วงใยสุขภาพพี่น้องประชาชน ผมก็ห่วงใยครอบครัวตัวเองเหมือนกัน หากมันเกิดอันตรายจริงๆ ผมก็คงมีการให้แบน”

ถามต่อว่า ถือเป็นการสวนทางตามมติของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสุริยะตอบ

“นายกรัฐมนตรีบอกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูกันว่าเป็นอย่างไร นายกฯ ก็ระบุชัดเจนว่า  มติเดิมให้จำกัดการใช้  ไม่ใช่การยกเลิกทันที”

ถามต่อ  การลงมติวันนี้ได้มีการยกเลิกมติเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2562ก่อนหรือไม่ นายสุริยะตอบ

“ ไม่มี เพราะมติวันนี้ให้เลื่อน แต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2562 มีมติให้แบนทันที เรามองว่ามันอาจจะมีปัญหากับประชาชน ในส่วนของสารไกลโฟเซต ทั่วโลก 161 ประเทศให้ใช้  มีเพียงแค่ 5 ประเทศที่ไม่ให้ใช้ ดังนั้น หากเราจะไปแบนทันทีมันจะสมเหตุสมผลหรือไม่  ประเทศสหรัฐอเมริกาเองและหลายประเทศก็ใช้  ผลกระทบจากการแบนทั้ง 3 สารก็จะเกิดขึ้น เช่น ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ที่เรานำเข้าจากสหรัฐอเมริกาก็จะต้องยกเลิก เพราะมันอาจจะมีสารดังกล่าวตกค้างอยู่  เมื่อคณะกรรมการทุกคนฟังเหตุผลทั้งหมดแล้ว ที่ประชุมจึงมีมติเอกฉันท์โดยที่ไม่มีการโหวต เพราะทุกคนถามที่ประชุมแล้วว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากใครไม่เห็นด้วยก็ต้องแสดงตนและบอกขึ้นมาได้ จึงไม่มีการนับเสียง ในเมื่อที่ประชุมเห็นด้วยแบบนี้จึงไม่จำเป็นต้องมีการนับเสียง หลังจากนี้จะมีมาตรการโดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดูแล”

ถาม  เรื่องนี้จะทำให้มีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุริยะ ตอบ

“คงไม่มีปัญหา ถ้ารับฟังด้วยเหตุและผล ถ้าเราเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนจะมีการพูดคุยกับแกนนำหรือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยโดยตรงหรือไม่นั้น ส่วนตัวคงไม่มีอะไร เพราะเมื่อตะกี้ก็ยังเจอกัน แต่ก็ไม่มีอะไร”

matemnews.com

27 พฤศจิกายน 2562