Home ข่าวทั่วไปรอบวัน งูเห่า … พรรคเพื่อไทยแถลงข่าว “จะเอาผิด ส.ส.สถานหนัก”

งูเห่า … พรรคเพื่อไทยแถลงข่าว “จะเอาผิด ส.ส.สถานหนัก”

1027
0
SHARE

 

 

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์  นายชัยเกษม นิติสิริ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค

 

ตั้งโต๊ะร่วมแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย  6 ธ.ค.2562 โดยนายสมพงษ์  แถลงว่า

 

“ตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีมติเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44  ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นไปตามอุดมการณ์และนโยบายของพรรคที่จะต้องคัดค้านต่อต้านการรัฐประหาร แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าในการประชุมสภาฯผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2562  ส.ส.พรรครัฐบาลเสนอให้ลงคะแนนใหม่ โดยมีเจตนาจะล้มญัตติดังกล่าว ได้มี ส.ส.ของพรรค 3 คน ร่วมประชุมเพื่อให้ครบองค์ประชุมในการลงมติครั้งนี้ด้วย  ทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรคและภาพลักษณ์ของการเป็นพรรคฝ่ายค้านเป็นอย่างยิ่ง ทั้งที่มติพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นชอบไม่ให้ ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุม ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง กรณี ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 คนได้เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าว อาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561 ข้อ 63 (7) แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคณะ โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานกรรมการ นายชัยเกษม นิติสิริ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมการ และนายวัฒนา เตียงกูล เลขานุการ ให้ใช้เวลา 7-10 วัน โดยให้ตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ ส.ส.ของพรรคได้เข้าร่วมประชุมในวาระพิจารณาญัตติข้างต้น เชิญ ส.ส.ของพรรคที่เกี่ยวข้องและที่มีข้อมูลมาให้ข้อเท็จจริงหรือส่งมอบเอกสารหลักฐาน และสรุปข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะเสนอหัวหน้าพรรคเพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไป”

 

นักข่าว  การเอาผิด ส.ส.สถานหนักของพรรคคืออะไร นายชัยเกษม เป็นผู้ตอบว่า ในความเป็นสมาชิกพรรค ก็ต้องดำเนินการตามมติพรรค ส่วนจะลงโทษหนักแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่สอบได้ หากพบว่า ส.ส.ถูกชักจูงด้วอามิสสินจ้าง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะถือว่ามีความผิด หากทำผิดถึงขั้นร้ายแรงอาจถึงขั้นขับออกจากพรรค ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งต่อไป ถือเป็นเรื่องร้ายแรงเพราะอนาคตการเป็น ส.ส.แทบจะเป็นหมดไป”

 

นักข่าวบอกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการโหวต นายชูศักดิ์ เป็นผู้ตอบว่า

 

“แม้ว่ารัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมืองเขียนไว้ว่า  เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ ส.ส.ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับของพรรค เพราะ ส.ส.จะลงสมัครอิสระไม่ได้ ต้องสังกัดพรรคการเมือง ดังนั้นเมื่อพรรคมีมติ ส.ส.ต้องเคารพมติพรรค”

 

นายภูมิธรรม แถลงว่า

 

“คณะกรรมการฯ จะเข้าไปตรวจสอบ   ขึ้นกับข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการใช้เงินซื้อและมีการรับเงินจริง ก็จะดำเนินการเอาผิดทางอาญาต่อไปด้วย มาตรการสูงสุดคือขับออกจากพรรค ไม่ส่งลงสมัครไปจนถึงภาคทัณฑ์”

 

 

matemnews.com 

6 ธันวาคม 2562