วันที่ 6 ธ.ค.62 ที่แปลงนาข้าวหอมปทุมของนายสนั่น แสงใส เกษตรกรทำนา หมู่ 5 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผวจ.ปทุมธานี ลงแขกเกี่ยวข้าวหอมปทุมธานี พร้อมด้วย นายกเหล่ากาดชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ และพี่ น้อง ชาวเกษตรกรในพื้นที่ ภายใต้สโลแกน “ใบบัวรองข้าวหอม ใบตองรองปลามัน 2019” ณ ทุ่งหลวงรังสิต อำเภอคลองหลวง พร้อมร่วมกันกินข้าว ปลา และไก่อบฟาง เพื่อร่วมกันสืบทอดวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน
ผวจ.ปทุมธานี เผยว่า บริเวณแห่งนี้ เดิมเป็นทุ่งหลวงรังสิตสมัยรัชกาลที่5 ที่เป็นพื้นที่ทำนาเพื่อเป็นแหล่งผลิตข้าวเพื่อนำเข้าไปในกรุงเทพ แรกๆเรียกเมืองธัญบุรี ซึ่งบริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำมี่สำคัญ โดยคลองรังสิต นั้นเป็นคลองสายหลักในโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเริ่มขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นโครงการคลองชลประทานเพื่อการเกษตรแห่งแรกของไทยที่ริเริ่มขึ้นเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณทุ่งรังสิตให้เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าว รองรับการขยายตัวของการส่งออกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของไทยในขณะนั้นและเป็นชลประทานเพื่อการเกษตรกรรม
โดยปัจจุบันจังหวัดปทุมธานี เป็นแหล่งผลิตน้ำดิบในการทำประปาส่งไปหล่อเลี้ยงชาวกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมปทุมธานี ซึ่งเป็นพันธ์ข้าวของชาวปทุมธานี คนปทุมธานี ปัจจุบันนี้มีความเจริญก้าวหน้าเป็นปทุมธานี 4.0 ประชากรมีรายได้เป็นอันดับ6
“ผมมาที่นี่เพื่อ ใบบัวรองข้าวหอม ใบตองรองปลามัน มากินไก่อบฟาง เพื่อดำรงวิถีชีวิตและ อัตลักษณ์ของชาวปทุมธานี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นดินแดนปลูกข้าวส่งเข้าสู่พระนคร และปัจจุบันยังปลูกข้าวหอมปทุมธานี ซึ่งมีชื่อเสียงของประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามความเจริญก้าวหน้าของจังหวัดปทุมธานีนั้นมันได้สร้างความเจริญ เป็นเมืองอุตสาหกรรม เป็นบ้านจัดสรร มีตลาดมากมายเป็นจำนวนมาก เป็นเมืองมหาวิทยาลัย มีพิพิธภัณฑ์มากมาย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก
เพราะฉะนั้นเมืองของเราต้องรักษาเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ตรงนี้ไว้ ผมต้องมาให้กำลังใจชาวนาชาวไร่ ชาวสวน ที่อยู่ในพื้นที่ทุ่งหลวงรังสิต ซึ่งกินพื้นที่ อำเภอหลองหลวง อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือบางส่วน นอกนั้นพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ก็เจริญเป็นปทุมธานี 4.0 ไปหมดแล้ว”
การลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นประเพณีไทยที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจที่มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสามารถช่วยสร้างความสมัครสมานสามัคคีกันในหมู่บ้านได้อีกด้วย
ข้าวหอมปทุมมีคุณสมบัติคล้ายข้าวหอมมะลิ ทำให้คุณค่าและคุณประโยชน์ที่เราได้รับมีความคล้ายคลึงกัน โดยข้าวหอมปทุมมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 71-77% รองลงมาคือโปรตีน 5-8% มีส่วนช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชาและวิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอกได้อีกด้วย