วิเคราะห์ให้เห็นจะๆ ต้นเหตุของการไปไม่ถึงฝัน บนเวทีประกวดนางงามระดับโลกของไทย ที่แท้เป็นแบบนี้??

สังเกตุได้ว่าคำถามรอบลึกๆ ที่กองประกวดนางงามระดับโลกอย่าง Miss universe ใช้ถามนางงามของไทยตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามเกี่ยวข้องกับการเมืองแทบทั้งนั้น นั่นแสดงว่าสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยเป็นประเด็นที่โลกรับรู้ และต้องการฟังทัศนคติของนางงามตัวแทนไทย และล่าสุด ฟ้าใส ปวีณสุดา ก็มาตกม้าตายกับคำถามการเมืองอีกครั้ง ส่งผลให้ไปไม่ถึงฝันจอดที่ท็อป 5 เพราะคำตอบของเธอไม่ชัดเจนและตรงประเด็นเท่าใดนัก

ทั้งนี้มีบทวิเคราะห์จากเพจ ตุ๊ดรีวิว ที่มองว่าประเด็นทางการเมืองของไทยคือตัวฉุดรั้งความคิดของคนไทยเอาไว้ ไม่ให้กล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ส่งผลให้เสียโอกาสในหลายๆ ด้าน โดยมีข้อความระบุว่า…

ผมขอแสดงความยินดีกับ South Africa ที่ได้รับมงกุฎนางงามจักรวาลในปีนี้ เธอสมมง และไม่ได้พาลที่เราไม่ได้มงแต่อย่างใด แต่มาวิเคราะห์กันเสียหน่อยดีกว่า ว่าทำไมไทยจึงมีปัญหาที่ทำให้ไปไม่ถึงดวงดาว และไปได้สูงสุดแค่ Top 5 Miss Universe 2019

ปัญหาที่สามารถตีโจทย์ได้แตกที่สุด สะท้อนผ่านรอบการตอบคำถาม 5 คนสุดท้าย ที่ไปดับฝันฟ้าใส ให้ไปไม่ถึงดวงดาว

1) ต้นทุนดีพร้อม ทีมงานครบครัน นางงามมีศักยภาพ ทุกอย่างพร้อมมาก

ปีนี้ เราควรชนะได้แล้ว เรามีความพร้อมทุกด้าน TPN พี่ลูกเกด และทีมงานต่างๆ ด้านชุด ด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ และการตอบคำถาม train ทุกอย่างมาอย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ข้อกังขา ในด้านการเตรียมตัว และการทำงานของกองประกวดไทย

ในขณะที่ฟ้าใสเอง คือ ‘ครบโคตรๆ’ ทั้งความสวย ไหวพริบ ทัศนคติ บุคลิกภาพ และการพัฒนาตนเอง เป็นคนที่ไปประกวดอย่างมีความพร้อมเป็นผู้ชนะแบบสุดๆ ราวกับนอนใส่มงมาจากในบ้าน

2) การโยนคำถาม 5 คน ที่จงใจเป็นคำถามการเมือง ให้ไทย ที่ฆ่าทางทัศนคติ ต่อคนทั้งโลก

จริงๆ ลองฟังคำถามดีๆ เวทีมีการจัดวางคำถาม ที่เป็นคำถามแบบไม่ต้องจับฉลาก นั่นหมายความว่า มันคือคำถามของแต่ละคน ที่ถูกวาง และล็อคสเปคไว้ ให้เหมาะสมกับบริบท และการแก้ปัญหาในการตอบของนางงามชาตินั้นๆ และหวยออกที่ไทย เมื่อเรามีปัญหาด้านการเมืองที่ชัดเจน คำถาม ที่ถามมาจึงชี้โพรงให้เราเห็นปัญหา ที่เป็นบาดแผลของประเทศ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ราวกับฆ่าประเทศไทยไม่ให้ได้มง

Q: “รัฐบาลสอดแนมประชาชน เพื่อต้องการให้ประเทศและประชาชนปลอดภัย แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว คุณคิดว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่าง ความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัว” ?!?
A: ฉันเชื่อว่าทุก ๆ ประเทศนั้น รัฐบาลจะมีมาตรการหรือนโยบายที่จะรักษาความปลอดภัยของพวกเรา และฉันก็ยังเชื่อมั่นว่าความปลอดภัยนี้ไม่ควรข้ามเส้นของความเป็นส่วนตัว เพราะว่าเราทุกคนเองมีสิทธิ์ที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของเราเอง อย่างไรก็ตามความปลอดภัยนั้นก็จำเป็นและสำคัญ ดังนั้นฉันจึงเชื่อมั่นว่า การที่เราทุกคนจะสามารถอยู่ในสังคมที่ดีขึ้นได้นั้น รัฐบาลควรจะพิจารณาเรื่องของขอบเขตของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้พอเหมาะพอดีเพื่อความสงบสุขของสังคม

3) นางงามไทยตอบฉลาด โดยพยายามให้ดีที่สุด แต่ยังไงต้องตอบอยู่บนบริบทประเทศ

มีคนบ่นว่า ฟ้าใสได้คำถามยาก…จะไม่ให้ยากได้อย่างไร ในเมื่อเวทีก็ต้องเอาใจ แต่ประเทศจะไปต่อได้ยังไง ถ้าตอบไม่ตรงความจริง…มันเป็นการยืนอยู่ในจุดที่มีความขัดแย้งในตัวเองสูงมากที่สุด ในเมื่อประเทศเป็นอีกอย่างที่ไม่ตรงกับบริบทของค่านิยมสากลที่โลกต้องการ

ฟ้าใสต้องตอบแทงกั๊ก ในสิ่งที่พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะบ้านเรา Security comes first. ซึ่งเรารู้กันอยู่เต็มอก ดังนั้น ฟ้าใสจึงตอบให้กลาง เป็นมิตรต่อเวที และไม่เป็นพิษต่อประเทศ ทั้งๆที่ เธอควรจะได้แสดงทัศนคติของเธออย่างเต็มที่ในความเชื่อด้านสิทธิเสรีภาพ แต่เราปลอมมันไม่ได้ เพราะบ้านเราไม่มีสิ่งนี้ในชาติ

4) คำตอบที่ควรจะเป็นในประเทศที่พัฒนาแล้วคือ “privacy comes first.”

ประเทศประชาธิปไตย “ควรให้สิทธิเสรีภาพคนมาก่อน” โดยที่ไม่ลืมความปลอดภัย แต่จะไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพ และลิดรอนความเป็นส่วนตัวของพลเมือง

แต่นางงามเราตอบแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรายืนบนผืนแผ่นดินไทย ที่เอาความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคล ไทยจัดเป็นประเทศที่รัฐบาลไม่ได้เห็นคุณค่าของค่านิยมสากลที่โลกให้ความสำคัญคือ “ประชาธิปไตย” ฟ้าใสไม่อาจจะหักหน้ารัฐบาลไทย ด้วยการตอบคำถามที่ขัดแย้งกับความเป็นชาติ ณ ปัจจุบันได้ จึงไม่มีทางมงลง

5) ไปแก้ปัญหาการเมืองไทยก่อน ค่อยส่งนางงามใหม่ ดีแค่ไหน ก็แพ้ทาง เพราะเวที MU เป็นเวทีเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก

ถ้าไม่แก้ปัญหาการเมืองไทยก่อน ให้เราเป็นประเทศที่ซิวิไลซ์แล้วจริงๆ ต่อให้ส่งนางงามที่ดีพร้อมไป เราก็ไม่มีวันชนะหรอก เพราะเราแพ้ทางการเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่ง MU เป็นเวทีที่ให้ความสำคัญกับเรื่องระหว่างประเทศ เรื่องการเมือง และสังคมขั้นสุด คำถามที่ดีจะฆ่าประเทศเราเอง เพราะเราตอบให้ดี ถูกใจคนทั้งโลกไม่ได้ เก่งแค่ไหน ก็ไปไม่ไกล เพราะบริบทการเมืองประเทศไม่ส่งเสริมชัยชนะ

“สิ่งที่ฟ้าใสพูดบนเวทีไม่ได้…คนทั้งประเทศก็พูดไม่ได้” น่าอายมากประเทศไทย นางงามดี แต่การเมืองฆ่านางงาม

นางงามนั้นดีแล้ว ฟ้าใสไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือ “PA-USE” หยุดเถอะ จะได้ส่งนางงามออกไปแล้วทำหน้าที่ได้เต็มที่ สมมง สมกับศักยภาพที่เขามีเสียที เสียดายที่เรามีคนที่พร้อมขนาดนี้แล้ว ไม่ได้หาได้ง่ายๆ แต่การเมืองขวางมงซะงั้น