Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์ไอเดียบรรเจิดอีกแล้ว “ดินแลกน้ำ” ทำยังไง

พลเอกประยุทธ์ไอเดียบรรเจิดอีกแล้ว “ดินแลกน้ำ” ทำยังไง

521
0
SHARE

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินจากตึกสันติไมตรี หลังนอกจะกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อตอนสาย 6 ม.ค.2563 แล้วหยุดที่ไมโครโฟนแถลงข่าว หลายประเด็น

 

“ วันที่สิ่งที่กำลังดีๆ ก็อยากให้เดินหน้าไป อย่าดึงให้ถอยหลัง ย้อนไปย้อนมา ผมคิดว่าได้ตั้งใจมั่นทำงานมา 5 ปี ปีที่ 6 นี้ ยังยืนยันมีแรงศรัทธาตลอดมา ไม่ใช่ต้องการอำนาจ ใครบอกว่าการเมืองคืออำนาจผลประโยชน์ ในเมื่อผมไม่ต้องการอำนาจและผลประโยชน์ แล้วทำไมไม่ไว้ใจผม เมื่อไว้ใจผมก็ต้องไว้ใจในการบริหารของผม  ผมจะต้องควบคุมเรื่องเหล่านี้ให้มากที่สุดไม่ให้กลับไปที่เดิม นั่นคือสิ่งที่อยากจะพูดกับพวกเราทุกคน วันนี้ที่พูดเยอะเพราะแบบนี้  วันนี้นายกฯ กำลังคิดแก้ไขปัญหาหลายเรื่อง นายกฯไม่เคยหยุดคิด ใครจะตำหนิต่อว่าอะไรก็ตาม ก็เอาเถอะ เรื่องไหนที่ทุจริตผิดกฎหมายก็ว่ามา ชี้แจงได้ก็จบ ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ไปขึ้นกระบวนการศาล การพูดกันไปมาบางทีไม่ใช่เรื่อง มันไม่มีอะไรที่ชัดเจน พูดกันไป บอกกันมา จนเกลียดชังหมด ผมถามว่าเวลานี้เราควรจะสร้างให้เกิดความเกลียดชังกันเองในชาติหรือไม่ มันใช่เวลาหรือไม่ ทำไมไม่เอาเวลามารวมพลังเพื่อต่อสู้กับปัญหาภายนอก แล้วปัญหาภายในก็แก้กันในเชิงระบบกลไก ถ้ามัวโทษกันไปกันมา มันแก้อะไรไม่ได้สักอย่าง แก้โน่นกระทบนี่ พันกันไปหมด รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ปัญหาที่ซ้ำซ้อน ไม่ใช่แก้ปัญหาเชิงเดี่ยวในลักษณะเปิดแล้วปิดงานปรบมือกัน ผมไม่ชอบแบบนั้น ผมชอบแก้ปัญหาทั้งระบบ บางอย่างได้ผล บางอย่างไม่ได้ผล เพราะทั้งหมดเราบังคับไม่ได้ มันเป็นเรื่องของประชาชน วันนี้ผมพยายามทำดีที่สุด รับทุกปัญหาของประชาชนมาคิด กลับบ้านก็คิด เสาร์อาทิตย์ก็คิด เย็นกลับไปก็คิด ผมไม่เคยนิ่งนอนใจกับปัญหา แต่ผมก็ต้องใช้กลไก ครม.ขับเคลื่อนและติดตามผลการปฏิบัติจากการรายงาน ผมไม่ได้ฟังรายงานจากข้าราชการอย่างเดียว แต่ฟังจากประชาชนที่เป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ ผมเอาทั้งสองอย่างมาผสมกัน คือเชิงหลักการและเชิงประจักษ์ นั่นคือสิ่งที่ผมทำงาน  ผมอยากให้ทุกคนใช้กลไกประชาธิปไตยของวันนี้สร้างประเทศกันก่อนได้หรือไม่ ดีกว่าที่จะทำลายซึ่งกันและกัน ถ้าผิดถูกตรงไหนก็ไปเข้ากระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าพูดกันไล่กันไปกันมาแบบนี้ ผมไม่เห็นประโยชน์จะเกิดขึ้น ไม่ว่าสนับสนุนผมหรือสนับสนุนใครก็ตามหรือต่อต้านผม มันเกิดประโยชน์กับใครบ้าง มันก็มีคนจำนวนหนึ่งที่ออกมาทำเรื่องแบบนี้ พัน สองพัน หมื่นนึง แต่คนที่เสียประโยชน์คือคน 60 ล้าน ผมอยากจะบอกว่าพอเถอะ มาช่วยกันทำประเทศดีกว่า ช่วยกันฟังว่ารัฐบาลจะทำอะไร จะได้ประโยชน์อะไร ถ้าไม่พอใจอะไรก็บอกมา รัฐบาลก็แก้ไข แก้ปัญหาต้องแบบนี้ อย่าใช้ทุกเวทีดิสเครดิตกันไปมา ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะยังไม่ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ใครผิดถูกอย่างไรให้มาแจ้ง เอาหลักฐานมาผมจะนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อตัดสินอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ตอนนี้มีองค์กรอิสระตรวจสอบเยอะแยะไปหมด แล้วเขาจะกล้ามาเข้าข้างผมหรือ ถ้าเขากล้าช่วยผมหรือใครก็ตามแล้วเขามีความผิด เป็นท่านท่านจะกล้าหรือไม่ที่จะช่วยคนผิด ผมว่าทุกคนกลัวความผิด ฉะนั้น ผมก็ใช้กลไก เจตนาของผมในการแสดงออก  หลายอย่างคิดออกมาทำไม่ได้ผล ผมก็ยอมรับ ทุกอย่างอาจจะต้องลองผิดลองถูก ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญผมก็ไม่รู้จะทะเลาะกันทำไม ในเมื่อตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาแก้ไขก็ไปคุยกัน จะมาคุยกันทางสื่อทำไมกันทุกวัน เปิดประเด็นกันอีกทำไมในเมื่อผมก็ไม่ได้ขัดข้องอยู่แล้ว ก็ไปคุยกันในกรรมาธิการ วันนี้ทุกอย่างออกสื่อกันหมด แล้วก็ตีกันยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง อยากถามว่ามันสำเร็จอะไรสักอย่างหรือไม่ ความร่วมมือจะเกิดหรือไม่ แล้วมาบอกว่าห่วงเรื่องโน้น มีสู้รบสงคราม แต่ในประเทศก็ตีกัน แล้วไปห่วงทางโน้น ผมจะไปทำอะไรได้ ทำสองทางช่วยผมบ้างผมฝากคน 60 กว่าล้าน ที่เขาเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยที่ท่านไม่ต้องไปสนใจเรื่องอะไรดี จะใช้คำพูดอะไรดี เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง บางทีมันไม่ได้สาระอะไรทั้งสิ้น พูดกันได้ทุกวัน เรื่องที่ยังไม่เกิดก็พูดทำให้สังคมระอุทุกวัน ทำเพื่ออะไรผมอยากถามกับการที่ผมทำเพื่อประเทศของผม เพื่อพวกเราทุกคนร่วมกับพวกเรา แต่อีกพวกจ้องจะทำลายทุกวัน ทำอะไรก็ผิดหมด ไม่มีใครทำถูกทั้งหมดหรือผิดทั้งหมดหรอก คำว่าผิดกระบวนการยุติธรรมต้องตัดสิน และต้องเชื่อไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เช่นนั้นประเทศอยู่ไม่ได้แน่นอน ทุกประเทศอยู่ด้วยกระบวนการยุติธรรม จะต้องมีการพิสูจน์สิทธิ ข้อเท็จจริงตามกระบวนการ 3 ศาล เข้าใจกันหรือไม่ ไปว่ากันมาเมื่อตัดสินแล้วก็จบ ไม่ใช่ไปด้อยค่าศาลอีก ทุกอย่างมันรวนเรไปหมดแล้วจะอยู่กันด้วยอะไร  ผมถามหน่อย รัฐธรรมนูญเขียนยังไงก็ไม่มีใครพอใจทั้งหมด ฉะนั้น อย่าเราเรื่องเดิมๆ มาทะเลาะกันอีกเลยผมขอร้องแค่นี้ ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น ใครจะด่าจะว่า ในสื่อด่าผมทุกวัน การ์ตูนเขียนด่ามา 5 ปีเต็ม ผมไม่เคยไปแตะต้องเลย รู้อยู่หนังสือพิมพ์ไหน หน้าไหน ผมไม่เคยแตะต้องรังแกสื่อไหน เขาทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกกระบวนการตามกฎหมายที่เขียนไว้อยู่แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องไปสั่ง ถ้าเราไม่เอากฎหมายที่เป็นตัวพื้นฐานของประเทศ ประเทศนี้ก็ไม่ใช่ประเทศ อาจจะเรียกว่าอะไรสักอย่างที่หลายคนหลายกลุ่มอยู่กันไปตีกันไป นั่นมันโบราณกาลร้อยกว่าปีมาแล้ว วันนี้เป็นประเทศมาสองร้อยกว่าปีแล้วกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งสองร้อยกว่าปีแล้ว  ทำไมจะย้อนกลับไปสู่ยุคอดีตอีกที่ทุกคนแยกกันอยู่ แยกฝ่ายแล้วทุกคนก็ตีกัน รบกัน แล้วประเทศชาติ ประชาชนจะอยู่ตรงไหน ที่บอกรักชาติรักประชาชน รักจริงหรือเปล่า รักแบบไหน รักถูกวิธีหรือเปล่า รักลูกถูกวิธีหรือเปล่า รักคนไทยถูกวิธีหรือเปล่า ถ้ารักมันต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ดีบ้าง ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง แต่คนได้ประโยชน์ต้องมากกว่าคนที่ไม่ได้ประโยชน์ มันต้องมีคนเสียประโยชน์ นั่นคือสิ่งที่ยากง่ายของการทำงาน ไม่ใช่ทำงานสั่งเหมือนสั่งขี้มูก เช้านี้สั่งปื๊ดไปแล้วก็โล่ง มันไม่ใช่ ไม่เช่นนั้นผมจะนั่งเป็นบ้าเป็นบอเขียนหนังสือ นั่งคิดทั้งวันเหลือเวลานอนที่ไม่ได้คิด แล้วจะต้องมาเสียเวลาพูดกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง สมองผมหายไปเยอะ หายไปครึ่งนึง ทำไมไม่ช่วยผมบ้าง ผมเคารพทุกท่านเพราะเข้ามาในกระบวนการประชาธิปไตย แต่ผมถามว่า ประชาธิปไตยวันโน้นกับประชาธิปไตยวันนี้ต่างกันอย่างไร หาให้เจอ   ผมขี้เกียจพูดย้อนไปย้อนมา ทุกคนทราบดี แต่ลืมไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย วันนี้สิ่งที่ดีเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ไม่ดียังมีค้างอยู่ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้ประชาชนตัดสินใจว่าเราจะเดินไปข้างหน้า หรืออยู่กับที่ หรือจะก้าวถอยหลัง หรือจะรื้อทั้งหมดกลับไปสู่อดีต เชิญท่านเถอะ ผมทำของผมเต็มที่เท่านี้

 

ผมติดตามสถานการณ์อิหร่านกับสหรัฐฯอยู่ โดยฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศก็ติดตาม เราต้องให้ความสำคัญกับสถานการณ์ในต่างประเทศด้วย หลายอย่างก็ส่งผลต่อภูมิภาคของเราด้วย แม้จะเป็นประเทศที่อยู่ไกล ก็มีผลกระทบทางการค้าและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นต่างๆ  วันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ราคาพลังงานที่อาจจะสูงขึ้น ก็จะเกิดผลกระทบกับราคาพลังงานภายในประเทศ ทุกคนต้องคิดด้วยเหตุด้วยผล คิดเองเออเองทั้งหมดไม่ได้ และรัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าจะแก้ปัญหาได้มากน้อยเพียงใดตามกติกาและกฎหมายที่มีอยู่ เราจะแก้ไปแบบตามใจไม่ได้ เพราะมีความละเอียดอ่อน และสถานการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในปัจจุบัน ซึ่งทุกประเทศก็เป็นห่วงในเรื่องนี้ ไม่อยากให้เกิดขึ้น  การแจ้งเตือนคนไทยเป็นมาตรการเฉพาะอยู่แล้ว  เป็นระเบียบปฏิบัติประจำ ผมได้ย้ำกระทรวงการต่างประเทศไปแล้วว่าไม่ต้องให้สั่ง โดยทุกสถานฑูต กงศุล ต้องเตรียมแผนอพยพประชาชนไปในพื้นที่ปลอดภัยในขั้นต้นก่อน จากนั้นก็เป็นเรื่องของการส่งกลับ อาจจะใช้สายการบินพาณิชย์ แบบเช่าเหมาลำหรือเครื่องบินของกองทัพอากาศ ก็ขึ้นอยู่กับการขึ้นลงของสนามบินที่จะอนุญาตด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ขอให้คนไทยของเราปลอดภัย รวมถึงขอให้แจ้งญาติพี่น้องว่าปลอดภัยจะได้ไม่เป็นห่วง ตนขอฝากเอกอัครราชทูตและกงศุลต่างๆ ช่วยดูแลคนไทยให้มากที่สุด ขณะที่ในประเทศไทย ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง ดูแลสถานทูต ตลอดจนสถานที่สำคัญต่างๆ  ผมได้สั่งการไปแล้ว งานเหล่านี้บางครั้งไม่ได้พูดไว้ก่อน แต่ก็เป็นการสั่งการวันเสาร์ – อาทิตย์ เพราะข้อมูลต่างๆ ที่เข้ามา ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ การต่างประเทศ ได้รายงานนายกฯ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ผมก็สั่งการไปแล้วให้หัวหน้าหน่วยงานรับผิดชอบปฏิบัติ ขณะเดียวกันได้มีการเสริมกำลังในสถานทูตต่างๆ โดยเฉพาะบางสถานทูตที่สำคัญ

 

เรื่องเศรษฐกิจและค่าเงินบาท ผมไม่ได้หยุดนิ่ง มันมีหลายปัญหาหลายอย่างที่มีผลกระทบซึ่งกันและกัน แต่กฎหมายและกลไกก็มีอยู่ เราคิดเองไม่ได้ ต้องยึดหลักการทั้งเศรษฐศาสตร์และข้อเท็จจริง ขณะที่ปัญหาในประเทศ สิ่งที่รัฐบาลมอง นอกจากการช่วยเหลือประชาชน ในเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อประทังชีวิตให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ไปพลางก่อน อีกส่วนคือมาตรการช่วยเหลือ เช่น การประกันราคาข้าวและพืชผลเกษตร อย่างการประกันราคาข้าว จะต้องดูว่ากลุ่มใดที่ยังไม่ได้รับประโยชน์จากกลุ่มนี้ กำลังคิดการจำนำข้าวในยุ้งฉาง อย่างที่เคยทำมาแล้ว ซึ่งเกษตรกรชาวอีสานต้องการแบบนี้ เพราะเขาทำข้าวได้ปีละครั้ง เราจึงต้องแยกมาตรการนี้ออกมาและต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง มาตรการเดียวใช้ไม่ได้ ต้องใช้หลายมาตรการ  สิ่งสำคัญคือต้องช่วยกันดูแล ว่าถ้ามาตรการจำนำข้าวไปนั้น มันเกิดประโยชน์แล้วคนนำประโยชน์ไปใช้อย่างอื่นหรือไม่ เช่น กระโดด  ราคารับซื้อในราคาต่ำลงกว่าปกติ เพราะรัฐบาลรับผิดชอบแล้ว ฉะนั้น ขอร้องบรรดาพ่อค้าโรงสี อย่าไปกดราคาข้าว ตัวเองต้องรับผิดชอบ ช่วยด้วย ช่วยชาติกันหน่อย ไม่ใช่รัฐบาลตั้งราคาสูงไว้ ก็ไปกดราคาต่ำไว้ ที่เหลือรัฐบาลรับผิดชอบเอาเอง อย่างนี้ผมถือว่าไม่ช่วยชาติ ไปดูว่าถ้าราคาตลาดพอที่รับได้ ก็ให้ราคามันลดลงหน่อยได้หรือไม่ นี่คือเรื่องของการประกันราคาข้าว  รัฐบาลมองปัญหาเศรษฐกิจในภาพกว้าง มี 3 ระดับ คือ บน กลาง ล่าง ตอนนี้ก็ดูในเรื่องของกฎหมาย กฎระเบียบที่ใช้ตัวเดียวกันทั้งกลาง ใหญ่ เล็ก แต่ขนาดเล็กและกลาง ขีดความสามารถยังไม่เพียงพอ ก็ต้องหามาตรการว่าจะแยกอย่างไร เช่น เรื่องบัญชี กรมบัญชีกลางจะดูแลได้อย่างไร เพราะในกติกาเดียวกัน บริษัทขนาดใหญ่ เขาก็มีขีดความสามารถในการทำบัญชี มีการเรียนรู้ มีทุน แต่ระดับกลาง ล่าง เขามีน้อย ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 มกราคมนี้ จะมีการพิจารณามาตรการเกี่ยวกับเอสเอ็มอี และกองทุนต่างๆ รวมถึงมาตรการที่เอสเอ็มอีบางรายเข้าไม่ถึง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีคนจำนวนมากอยู่ในระบบ ถ้าไม่เข้มแข็งเพียงพอ ความสามารถการแข่งขันไม่ได้ โรงงานขนาดกลางและเล็กอยู่ไม่ได้ คนก็ตกงาน นี่คือสิ่งที่เราต้องไปดู พวกเราต้องช่วยกันดู ถ้ามัวแต่ติติงกันทั้งหมด มันไม่ใช่ จะให้รัฐบาลแก้ปัญหาอะไรก็กรุณาบอกมา จะได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ติกันทุกวันในภาพรวมว่าเศรษฐกิจมันแย่ แต่ไม่ได้มองแบบรัฐบาล ว่ามองกี่ส่วนบ้าง  ต้องมองว่าที่ผ่านมามาตรการเหล่านี้มากเท่าวันนี้หรือไม่ แม้กระทั่งรัฐบาลที่แล้วทำอะไรมาบ้าง ทุกคนต้องกลับไปดู ถ้าเราไม่ดูสิ่งที่สำเร็จ แล้วดูแต่สิ่งที่ไม่สำเร็จ มันก็จะเจอแต่ปัญหาที่ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ไม่สำเร็จมันก็จะต้องมีปัญหาต่อไปอีก  นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ก็เสียภาษีและสูงกว่าปกติ เราอยู่กันอย่างนี้ อย่าให้ใครมาบิดเบือนว่าคนจนเอื้อประโยชน์คนรวย ภาษีมาจากทุกคนมากน้อยตามกฎกติกากฎหมาย ถ้าเราบอกว่าเอื้อประโยชน์คนรวย คนจนถูกกดภาษี ก็ให้ไปดูมาตรการภาษีว่าเป็นอย่างไร ถ้าเราไม่เอาเรื่องนี้มาพูดคุยก็ตีกันอยู่ทุกวัน ที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้ต่างกันตรงไหน ผมยังไม่ได้ขึ้นภาษีอะไรสักอย่าง เพียงแต่บางอย่าง เช่น สินค้าที่น้ำตาลมากจะต้องขึ้นภาษีหรือไม่ เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพ หรือภาษีท้องถิ่น ที่ท้องถิ่นเป็นคนเก็บและเก็บไม่ได้มากนัก แต่เป็นการสร้างให้คนเข้าสู่ระบบภาษี วันนี้คนอยู่ในระบบภาษีไม่ครบ แต่ไม่มีใครกล้าทำเรื่องเหล่านี้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อประเทศ ถ้าวันข้างหน้าประเทศเราดีขึ้น แล้วจะทำอย่างไรถ้าระบบภาษีไม่สมบูรณ์ บิ๊กดาต้า เราก็ไม่ครบ หลายอย่างที่ทำมา ไม่ได้มุ่งหวังจะเป็นรายได้ เช่น โครงการชิมช้อปใช้ แต่ต้องการให้คนเข้ามาสู่ระบบ จะได้เช็คข้อมูลพื้นฐานได้ ทุกคนก็กลัวแต่เรื่องภาษีกัน ถ้าไม่มีภาษี รัฐบาลจะเอารายได้มาจากไหน แต่ผมก็ไม่สามารถไปบังคับใครได้ แต่อย่าไปพูดให้สิ่งที่กำลังเดินหน้าดีๆ ดึงถอยหลังไป

 

วันนี้ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขวิกฤติน้ำขึ้นมาแล้ว เพื่อบูรณาการให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ  คณะเดิมวางแผนระยะยาว ทั้งการเก็บน้ำ พร่องน้ำ ระบายน้ำ อย่างไรที่ไหนบ้าง ต้องใช้งบประมาณสูงมากทยอยดำเนินการตามแผน

 

 

 

ขณะที่ในบางพื้นที่ยังทำไม่ได้ น้ำไปไม่ถึง ชลประทานไปไม่ได้จะทำอย่างไร จึงเป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนการปลูกพืช หาพื้นที่ที่เหมาะสม ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถึงต้องมีนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อที่จะให้ปลูกพืชพลังงานแทน ทุกอย่างตนได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว  การแก้ปัญหาน้ำต้องมอง 2 อย่าง ระยะยาวมีแผนถึง 20 ปี ที่ต้องแก้ทั้งระบบให้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกตารางนิ้วจะมีน้ำไปถึงได้ ซึ่งไม่ได้ เพราะบางพื้นที่สูง บางพื้นที่ต่ำ บางพื้นที่ต้นทุนน้ำไม่พอ ถึงจะมีเขื่อนก็ไม่พอ จึงต้องไปแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่น หากจะทำแหล่งน้ำให้ถึงทุกหมู่บ้าน นั้นเป็นเรื่องการส่งน้ำขึ้นไป ก็ต้องมีต้นทุนน้ำ ถ้ายาวเกินไปต้นทุนก็สูง ค่าน้ำก็แพงขึ้น จึงต้องมีแหล่งน้ำในพื้นที่ เช่นการขุดลอกคูคลอง หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งต้องสร้างแหล่งน้ำในพื้นที่ขนาดเล็ก  วันนี้ให้ไปหาวิธีการทำอย่างไรในการขุดดินแลกน้ำ ขุดดินแลกบ่อก็ให้ทำกันไปด้วย ส่วนดินที่ขุดเจ้าของที่ก็ขายให้คนที่ขุดไป ผมถามแล้วตามกฎหมายทำได้ ก็ขุดกันบ้าง ถ้าเอาที่ดินทั้งหมดเก็บไว้โดยที่ไม่มีแหล่งน้ำ แล้วจะปลูกอะไรได้ หลายคนก็เป็นห่วงว่าที่น้อย น้ำมาไม่ถึง อย่างไรก็ส่งไม่ถึงแล้วจะทำอย่างไรรัฐบาลจะไปทำอะไรให้ทุกอย่างคงไม่ได้ขนาดนั้น พยายามทำให้มากที่สุด ท่านก็ต้องช่วยตัวเองบ้าง เช่น ขุดบ่อ อย่างน้อยก็มีน้ำอุปโภค บริโภค ไม่อย่างนั้นน้ำประปาก็ขาด น้ำอุตสาหกรรมก็ขาด ซึ่งอุตสาหกรรมเขาก็เสียภาษีเหมือนกันและสูงกว่าปกติ ทุกคนก็ต้องอยู่กันแบบนี้ อย่าให้มาบิดเบือนเรื่องคนรวย คนจน เอื้อประโยชน์คนรวย

 

matemnews.com 

6 มกราคม 2563