นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวที่กระทรวงเมื่อบ่าย 31 ม.ค.2563 ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่ออุบัติใหม่ได้ประชุมและยืนยันผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รายใหม่เพิ่มอีก 5 ราย รวมทั้งหมดเป็น 19 ราย ขณะนี้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 7 ราย เหลือนอนใน รพ.อีก 12 ราย
5 รายใหม่พบว่า เป็นคนจีน 4 ราย มีประวัติมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย และคนไทย 1 ราย เป็นคนขับรถแท็กซี่ผู้ชาย ไม่มีประวัติการเดินทางไปประเทศจีน ถือเป็นรายแรกที่แพร่ติดต่อภายในประเทศ
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงว่า คนขับรถแท็กซี่ 2 รายที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค รายหนึ่งผลตรวจเป็นลบ ไม่ได้มีการติดเชื้อแต่อย่างใด ส่วนอีกที่ติดเชื้อมาจากการส่งผู้ป่วยชาวจีนไป รพ. ซึ่งผู้ป่วยชาวจีนที่เป็นต้นเชื้อรายนี้ก็อยู่ในระบบ ขณะนี้ก็หายดีกลับไปแล้ว ในส่วนของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของคนขับแท็กซี่รายนี้มีทั้งสิ้น 13 คน จำนวนนี้เป็นคนในครอบครัว 3 คน คือ ภรรยา ลูก และหลาน จากการเก็บตัวอย่างไปตรวจเชื้อก็พบว่า ผลเป็นลบ ไม่มีการติดเชื้อทั้ง 13 คน แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง 14 วัน
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า ข้อกังวลคนขับแท็กซี่จะกระจายเชื้อไปสู่ผู้โดยสารคนอื่นๆด้วยนั้น เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้เมื่อป่วยแล้วได้หยุดขับรถแท็กซี่ทันที และติดต่อขอเข้ารับการตรวจตามระบบ เท่ากับว่าไม่มีการขับรถสัมผัสกับผู้โดยสาร ผู้โดยสารจึงไม่ต้องกังวล ขณะนี้เรามีการเตรียมแผนและมาตรการรับมือทั้ง 5 ระดับ ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ระดับการแพร่ระบาดในวงจำกัด หากเราสามารถจำกัดวงนี้ได้ เราก็จะกลับไปสู่ระยะที่ 1 คือ เป็นระดับผู้ป่วยที่มาจากนอกประเทศ เพราะไม่มีการแพร่กระจายต่อ เราพยายามดำเนินการจุดนี้ หากเทียบประเทศไทยกับประเทศอื่นที่มีการระบาดภายในประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เวียดนาม เยอรมนี ไต้หวัน ประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยงการแพร่ระบาดในไทยสูงกว่ามาก แต่กลับพบการแพร่ระบาดในประเทศครั้งแรกภายหลัง หลายๆ องค์กรก็มีการคาดการณ์อยู่ว่า ประเทศไทยเสี่ยงที่จะต้องเจอกับการแพร่ระบาดในประเทศ
matemnews.com
31 มกราคม 2563