Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ชวนคนไทยเข้ามีส่วนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ที่ #ประชุมสภา

ชวนคนไทยเข้ามีส่วนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ที่ #ประชุมสภา

370
0
SHARE

 

 

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ และหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าว 16 ก.พ.2563 ว่า

 

“การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นหน้าที่ของ ส.ส. ฝ่ายค้านในระบบรัฐสภาฯ โดยจะมีการ อภิปรายคณะรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2563 การอภิปรายครั้งนี้ มีความสำคัญ และจะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างมาก จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีให้เห็น เช่น จ่าทหารบกยิงกราดประชาชนที่โคราช เหตุกราดยิงที่บริเวณจุฬาซอย 10 และคนไทยฆ่าตัวตายเฉลี่ยวันละ 12 ราย ถือว่าสูงมาก โดยสถิติจากกรมสุขภาพจิต เผยให้เห็นว่า ในประเทศไทยตัวเลขการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 6.34 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน โดยพบว่าช่วงอายุ 25-59 ปี วัยแรงงานมีการฆ่าตัวตายมากที่สุดถึง 74.7% รองลงมาเป็นวัยสูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 22.1% และวัยเด็กอายุ 10-24 ปี 3.2% จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่า วัยทำงานเป็นวัยที่ต้องต่อสู้ เลี้ยงดูครอบครัว แต่กลับต้องมาเสียชีวิตมากที่สุด มีผลงานวิจัยสนับสนุน ให้เห็นว่าอาจเกิดจากพิษปัญหาเศรษฐกิจ และความเลื่อมล้ำทางสังคมที่สั่งสมมาโดยตลอดระยะเวลา 6 ปี

 

มีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจออกมาชี้แจงว่า ไวรัสโควิด-19 อาจกระทบจีดีพีไทยลดลง 1% หากไม่รีบแก้ไขค่าเงินบาทแข็ง ตลอดจนการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นมีความล่าช้า และไม่สามารถแก้ไขได้  ทั้งในเรื่องของการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 ทั้งล่าช้าและไม่ได้มาตรฐานสากล ตลอดจนปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ไม่สามารถแก้ไขได้จนเป็นปัญหาเรื้อรังต่อ สุขภาพของพี่น้องประชาชนคนไทย ความล่าช้าของคดี ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาลบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ตลอดจนกรณี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสียบบัตรแทนกันในรัฐสภา จนทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณประเทศปี 2563 ติดขัด  สร้างความครื้นแครงใจให้กับพี่น้องในสังคมโซเชียลว่า ประเทศไทยยังมีมาตรฐานทางกฎหมายอีกหรือไม่

 

โครงการเมกะโปรเจกต์หลากหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ได้มีการยกเลิกกฎหมายหลายมาตรา ให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ จนเป็นเหตุให้คนไทยเกิดความสงสัยว่า  เหตุใดเราจึงต้องทำเช่นนั้น หรือเป็นเพราะว่ามีใครได้รับผลประโยชน์ และจากการที่โครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ โดยเฉพาะที่กทม. ได้มีรองผู้ว่าฯ ลาออกถึง 2 คน จนเป็นที่กังขาว่า เหตุที่รองผู้ว่าฯ ทั้ง 2 คน ต้องลาออกนั้นเป็นเพราะไม่ยอมเซ็นสัญญาดังกล่าวหรือไม่

 

ยังมีอีกหลากหลายโครงการที่ทางพรรคเพื่อไทย มีเอกสาร หลักฐานที่พร้อมจะแสดงให้กับพี่น้องประชาชน ได้เห็นในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงการกระทำที่อาจดูไม่โปรงใสตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประชาชนตั้งคำถามในใจว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น  รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เคยทำอะไรที่สำเร็จ เป็นรูปธรรมบ้าง จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนมาร่วมกัน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การอภิปรายในครั้งนี้ได้ที่ #ประชุมสภา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่าง พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน”

 

Matemnews.com 

16 กุมภาพันธ์ 2563