โชว์ในสภาแล้ว – หลักฐานศาลออสเตรเลียจำคุก “มนัส พรหมเผ่า” 4 ปี
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล คืน 26 ก.พ.2563
“ขออภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยการแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ขาดจริยธรรม และคุณธรรมเข้าสู่ตำแหน่ง ส.ส. โดยมิชอบตามรัฐธรรมนูญ ร.อ. ธรรมนัสปกปิดบิดเบือนความจริง เป็นที่น่ารังเกียจระดับโลก เพราะเคยต้องคำพิพากษานำเข้า และเป็นผู้ยาเสพติด ซึ่งทำให้คุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ วันนี้ตนจะมาเปิดเผยความจริง ให้ทราบ คดียาเสพติดเป็นคดีอาชญากรรมร้ายแรงเป็นอาชญากรรมที่ทั่วโลกไม่สามารถให้อภัยได้ การนำมาบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามมาเป็นรัฐมนตรี จึงเป็นที่น่ารังเกียจของทั่วโลก ประเทศไทยเคยมีเหตุการณ์เข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ หลังการเลือกตั้งปี 2535 คือหัวหน้าพรรคการเมืองในขณะนั้น ไม่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ เพราะไม่สามารถเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเกี่ยวข้องต้องสงสัยเกี่ยวพันยาเสพติด สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส ยิ่งกว่า เพราะว่าเคยถูกศาลประเทศออสเตรเลียตัดสินว่า มีความผิดนำเข้าและค้ายาเสพติด ศาลตัดสินจำคุก 6 ปี ลดโทษจำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย ซึ่งตั้งแต่ ร.อ.ธรรมนัสเข้าดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ มีการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ ว่าต้องโทษจำคุก 8 เดือน หรือ 4 ปี ซึ่งวันนี้ตนจะเล่าให้ฟังจากหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในสื่อมาก่อน ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธในสภามาโดยตลอด ชี้แจงขัดแย้งกันว่าไม่เคยติดคุก แต่ต่อมากลับบอกว่าจำคุก 4 ปี โดยชี้แจงเป็นหนังสือต่อ กมธ.ป.ป.ช. เมื่อวันที่12 ธ.ค. 62 ว่า ท้ายสุดเมื่อเดือน มี.ค. 37 ศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลตัดสินจำคุก 6 ปี ต่อมาได้อุทธรณ์ จนลดโทษลง 4 ปี ขณะที่การชี้แจงเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 62 ระบุว่าถูกคุมขัง 8 เดือน จากนั้นไปทำงานในฟาร์ม ก่อนกลับไทย คำให้การในหนังสือตรงกับสื่อออสเตรเลียนำเสนอ แตกต่างจากการให้การในสภา แสดงว่าท่านโกหกในสภาแห่งนี้ และทำตัวเหมือนพินอกคิโอในสภา เป็นการจำนนด้วยหลักฐานและคำพูดของท่านเอง ผมเป็นประธานอนุกรรมการคณะที่ 2 ของ กมธ. ป.ป.ช. ได้รับการมอบหมายให้สอบสวนการเข้าสู่ตำแหน่งของ ร.อ.ธรรมนัส โดยได้ติดต่อไปยังศาลอุทธรณ์รัฐนิวเซาท์เวล ประเทศออสเตรเลีย และได้รับการตอบรับและส่งคำพิพากษาตรงมายัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2562 เป็นข้อมูลใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และได้ขออนุญาต พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อนำมาเปิดเผยในที่นี้แล้ว โดยคำพิพากษาลงวันที่ 10 มี.ค. 2538 ชัดเจนว่านายมนัส โบพรหม สารภาพว่าได้เจตนาเข้าเกี่ยวข้องกับการนำเข้าเฮโรอีน ผู้ร้องแต่ละคนถูกพิพากษาลงโทษจำคุกเป็นระยะเวลา 6 ปี โดยกำหนดโทษเป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 4 ปี และระยะเวลาห้ามปล่อยตัวอีก 2 ปี ทั้งนี้เอกสารได้ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการนำเข้าในระดับการนำเข้าเฮโรอีนในระดับเพื่อการค้า แสดงว่าที่ ร.อ.ธรรมนัสเคยพูดในสภา ว่าไม่เคยขนยา ค้ายา ขัดแย้งกับคำพิพากษา และไม่เป็นความจริง รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดคุณสมบัติบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าเป็นการต้องโทษในศาลไทยหรือต่างประเทศเท่านั้น และครอบคลุมกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดทุกฉบับที่ว่าด้วยยาเสพติด เป็นผู้ถูกพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการลงโทษ และไม่ระบุระยะเวลาว่าพ้นโทษมากี่ปี เป็นมาตรฐานของรัฐธรรมนูญปี 60 ผมไม่เชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัสสามารถเข้าออสเตรเลียได้ เพราะถ้าจำคุกเขาไม่ออกวีซ่าให้ ถ้ามีขอให้เอามาโชว์ด้วย หัวอกคนไทยเราจะยอมหรือที่จะให้คนที่มีคุณสมบัติต้องห้ามมาเป็นรัฐมนตรี และ รัฐบาลนี้มีนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างไร ที่สำคัญพ.ร.บ.ล้างมลทิน ที่ร.อ.ธรรมนัสนำมาอ้างนั้น ก็ไม่สามารถใช้ได้ เพราะการล้างมลทินล้างแต่โทษไม่ใช่การล้างความผิด และไม่ใช่การนิรโทษกรรมที่ล้างได้ทั้งคดีแพ่งและอาญา เป็นการเอาหลักการนิรโทษกรรมมาอ้าง ทั้งที่ความผิดยังอยู่ ท่านบิดเบือนข้อเท็จจริง ความผิดที่ประเทศออสเตรเลียจึงไม่สามารถล้างได้เลย ความผิดที่ศาลพิพากษาจำคุก 6 แต่ลดโทษ 4 ปี จึงยังอยู่จนถึงปัจจุบัน และห้ามลงสมัคร ส.ส.และเป็นรัฐมนตรีท่านอย่าหลีกหนีเลย ร.อ.ธรรมนัสเป็นผู้ต้องโทษจากศาลในคดีอาญา ตรงนี้น่าสงสัยว่ากลับมารับราชการได้อย่างไร ท่านไม่แจ้งกระทรวงกลาโหม ว่าต้องคำพิพากษาจำคุก 6 ปี ถือเป็นการปกปิดความจริง การมารับตำแหน่ง ส.ส. ที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ขัดคุณสมบัตินั้น จากการที่ผมไปตรวจสอบหลักฐานการสมัคร ส.ส.ก็ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ถือเป็นความตั้งใจปิดบังว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติที่ต้องห้าม ถือว่าท่านกำลังฉ้อโกงให้ได้รับสมัคร ส.ส.ในปี 2562 หรือไม่ หากใครปกปิดคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ต้องระวางโทษจำคุก 10-20 ปี ส่วนการเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี ได้ไปขอข้อมูลการตรวจสอบประวัติจากเลขาฯ ครม. แต่ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยแจ้งว่าต้องไปขอเจ้าตัวก่อน ผมจึงสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่ส่งข้อมูล คาดเดาได้ว่าท่านต้องการปกปิด เพราะว่าหากบอกไปท่านก็จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เมื่อหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ท่านจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้หรือ พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม แต่งตั้งคนที่ไม่ควรแต่งตั้ง ไม่มีคุณสมบัติมาเป็นรัฐมนตรี ผมขอกอบกู้สภาแห่งนี้ยึดสิ่งที่ถูกต้องถูกเป็นถูกผิดเป็นผิดความจริงเปิดเผยแล้ว ผมจะไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์และร.อ.ธรรมนัส”
ข่าวเก่าของ BBC Thai
matemnews.com
27 กุมภาพันธ์ 2563