Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์กับผีน้อย

พลเอกประยุทธ์กับผีน้อย

389
0
SHARE

 

เว็บไซต์สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่

นายกรัฐมนตรี เผยเตรียมหารือ ครม.รับคนไทยกลับจากเกาหลีใต้ ชื่นชมเด็กๆ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ช่วงเปิดเทอม ขอทุกคนร่วมมืออย่าสร้างความขัดแย้ง

 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม.ประจำสัปดาห์ โดยกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับ สสส. จัดบูธประชาสัมพันธ์กิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์ อัศจรรย์วันว่าง” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมกิจกรรมนี้ ที่ช่วยส่งเสริมประสบการณ์ให้กับเด็กและเยาวชน ให้ทุกคนมีแนวคิดและหลักคิดที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเรียนรู้ในเรื่องราวต่างๆ รวมถึงแนวทางการพัฒนาประเทศ โดยสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องการพัฒนาตั้งแต่วัยเด็ก ดังนั้นเมื่อมีกิจกรรมดีๆ แบบนี้เกิดขึ้น ทุกฝ่ายโดยเฉพาะพ่อแม่และผู้ปกครอง ต้องช่วยกันส่งเสริมและฝากให้ทุกคนตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ ในกรณีที่จะต้องทำกิจกรรมกับผู้คนจำนวนมาก พร้อมระบุว่า เอาเวลาว่างไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ดีกว่าไปในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ จากนั้น เด็กๆ ได้มอบหน้ากากอนามัยแบบผ้า และมอบโล่และดาบที่ประดิษฐ์จากกระดาษรัง ที่เป็นกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์ นำสิ่งรอบตัวมาประดิษฐ์เป็นของเล่น ที่เสริมสร้างทักษะทางความคิด โดยเด็กๆ กล่าวว่า เป็นกำลังใจให้กับนายกรัฐมนตรี และขอให้นายกรัฐมนตรี นำโล่ไปปกป้องประเทศ นายกรัฐมนตรี ได้บอกกับเด็กๆ ว่า ทุกคนเป็นกำลังให้ลุง และก็ต้องให้กำลังใจคนไทยทั้งประเทศ และร่วมกันต่อสู้กับปัญหาในหลายอย่างวันนี้ เพื่อทุกคนจะได้รับมือกับการเปลี่ยนแปลง และทุกคนต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง และต้องเอาข้อมูลข้อเท็จจริงมาพูดคุยกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินหน้าประเทศไปได้

 

ทั้งนี้ก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธการตอบคำถามถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อให้มีการพิจารณานำปัญหากรณีนักศึกษาจัดการชุมนุมทางการเมือง โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า “ขอให้ไปถามทางสภาฯ”

 

ส่วนการนำคนไทยที่มีความประสงค์ออกจากเกาหลีใต้ เพื่อกลับประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆ โดยคาดว่าจะได้หารือกันในที่ประชุม ครม. ซึ่งก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรีได้รับการตรวจวัดอุณภูมิร่างกาย ซึ่งเป็นมาตราการคัดกรองและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกำชับให้ตรวจเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนด้วย

 

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้แถลงข่าว 2 มี.ค.2563 ข่าวที่ว่ามีคนไทยจำนวนมากในเมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นต้นตอของการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานไทยลักลอบเข้าเมืองหรืออยู่เกินวีซ่าแห่รายงานตัวและต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินวีซ่า แสดงความสมัครใจออกนอกประเทศได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2563 โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ และสามารถกลับเข้ามายังเกาหลีใต้ได้อีก ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้สอบถามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของเกาหลีใต้แล้ว ได้รับทราบว่าตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.2562 -1 มี.ค.2563 มีคนไทยที่ลักลอบเข้าเกาหลีใต้หรืออยู่ในเกินวีซ่า มารายงานตัวแล้ว 5,000 กว่าคน ซึ่งเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมืองแทกู มี 136 คน

 

อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทุกรายจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานในสถานพยาบาลที่รัฐกำหนด และรัฐบาลเกาหลีใต้จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกรณีผู้ที่อยู่ในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหรือไม่ก็ตาม แต่ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าพบคนไทยในเกาหลีใต้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว นอกจากนี้ สำนักงานตม.เกาหลีใต้ยืนยันว่าผู้ป่วยทุกคนจะไม่ถูกจับกุม และไม่ถูกส่งตัวกลับถ้าไม่สมัครใจ

 

นายเชิดเกียรติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เกาหลีใต้ไม่มีมาตรการปิดเมืองหรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกเมืองแทกู หรือพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ซึ่งต่างจากกรณีของเมืองอู่ฮั่นในประเทศจีน ดังนั้น คนไทยในเกาหลีใต้ที่ต้องการจะกลับประเทศไทย สามารถเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องและเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ไปติดต่อกับสำนักงาน ตม.ในเขตที่พักอาศัยอยู่ได้ทันที โดยทางการเกาหลีใต้จะใช้เวลาประมาณ 3-15 วัน ในการออกเอกสารยืนยันการออกนอกประเทศ

 

ส่วนผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายซื้อตั๋วเครื่องบิน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ และตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ตั้งกลุ่มไลน์ใช้ติดต่อกับคนไทยในเกาหลีใต้ เพื่อประสานงาน แจ้งข่าวสาร สอบถามความเป็นอยู่ของ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางขอรับคำปรึกษาด้านสุขภาพกับหน่วยงานของเกาหลีใต้ โดยในกลุ่มไลน์นี้มีคนไทยในจ.คยองซัง-เหนือ (รวมเมืองแทกู) เข้าร่วมประมาณ 270 คน และมีผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยให้คำแนะนำในกลุ่มนี้

 

นายเชิดเกียรติ กล่าวว่า นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ติดตามสถานการณ์ความเป็นอยู่ของชาวไทยในพื้นที่ดังกล่าวกับตัวแทนเครือข่ายคนไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยรวมคนไทยยังคงใช้ชีวิตตามแนวทางของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยหลีกเลี่ยงที่ชุมชนและการเดินทางโดยไม่จำเป็น และสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ กำลังดำเนินการจัดส่งหน้ากากอนามัยให้กับคนไทยในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการหาซื้อด้วย

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลก่อมเข้าประชุมครม.เช้า 3 มี.ค.2563 ว่า

“เป็นเรื่องต้องดูอยู่แล้ว และกระทรวงการต่างประเทศต้องมาร่วมมือกัน ส่วนการกักตัวคงใช้มาตรฐานเดียวกันกับการดูแลนักศึกษาที่เดินทางมาจากอู่ฮั่น ประเทศจีน”

นายดอน​ ปรมัตถ์วินัย​ รมว.ต่างประเทศ​ ให้สัมภาษณ์หน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ว่า

 

“เห็นว่ามีการพูดคุยกันแล้ว แต่ผมไม่มีรายละเอียด ทราบว่า​อยู่ที่เมืองแทกูจำนวน 136 คน และอยู่บริเวณรอบๆ 300 กว่าคน ก็ แล้วแต่กระทรวงสาธารณสุข เรื่องนี้ให้ไปถามกระทรวงสาธารณสุข เขาประชุมกันแล้ว เห็นว่าจะมีการส่งกลับมาแต่ต้องถูกต้องตามกระบวนการ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศให้กรมการกงสุลด​ำเนินการประสานงานกับทางเกาหลีใต้​ ทั้งนี้​ คนไทยที่อยู่เกาหลีใต้ได้เปิดกลุ่มไลน์เพื่อไว้ติดต่อกัน ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวมีประมาณ 370 คน”

matemnews.com

3 มีนาคม 2563