Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์เยือนกระทรวงสาธารณสุข

พลเอกประยุทธ์เยือนกระทรวงสาธารณสุข

429
0
SHARE

พลเอกประยุทธ์เยือนกระทรวงสาธารณสุข

 

นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมกระทรวงสาธารณสุข ขอประชาชนยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ”ป้องกันโรคโควิด-19

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ กับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กำชับรณรงค์ให้ประชาชนยึดหลัก “กินร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ”

 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ กับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กำชับรณรงค์ให้ประชาชนยึดหลัก “กินร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ” เลือกใช้หน้ากากอนามัยที่เหมาะสม ป้องกันโรคโควิด-19

 

บ่ายวันนี้ (10 มีนาคม 2563) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สถาบันบำราศนราดูร พร้อมเยี่ยมชม ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค และร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  และคณะผู้บริหารร่วมให้การต้อนรับ

 

โดยสถาบันบำราศนราดูร เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางที่กระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมไว้รองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมกระบวนการคัดกรองผู้มารับบริการ เยี่ยมชมคลินิกโรคไข้หวัด และได้พูดคุยกับผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่พักรักษาในห้องแยกโรคความดันลบผ่านระบบวิดีโอ ขอให้ผู้ป่วยอดทน ให้หมอดูแลรักษาให้หายป่วยไวๆ รวมทั้งได้กล่าวให้กำลังใจทีมแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย ขอให้ทำงานอย่างเต็มที่และผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน ดูแลตัวเองให้แข็งแรงปลอดภัยด้วย

 

หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรค ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 เขต ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อย่ากังวลเรื่องอื่น ให้ร่วมมือทุ่มเททำงานให้เต็มที่ ส่วนเรื่องผู้เดินทางเข้าประเทศ รวมถึงแรงงาน

นอกระบบที่มาจากประเทศเกาหลีใต้ ฝากทุกเขตดูแลส่งต่อข้อมูล เฝ้าระวังดูแลให้ครบ 14 วัน ในเรื่องหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ขอให้ใช้อย่างประหยัด ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้เฉพาะบุคลากรที่ใกล้ชิดผู้ป่วย

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ กับผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข  กล่าวขอบคุณในการต้อนรับ  ขอให้นำนโยบายส่วนกลางไปสู่การปฏิบัติในการดูแลประชาชนให้ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ” และรัฐบาลได้ทำหน้ากากผ้าประมาณ  50 ล้านชิ้น ให้ประชาชน เลือกใช้หน้ากากอนามัยให้เหมาะสม ทั้งนี้ จะได้เร่งรัดนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการติดตามผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ขอความร่วมมืออย่าเลี่ยงการกักกันตนเอง ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำจะมีโทษตามกฎหมาย

 

“ขอชื่นชมกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำงานสอดประสานกันเป็นอย่างดี เห็นความตั้งใจในการทำงานที่เป็นระบบ มีความรักสามัคคีกัน รู้สึกมั่นใจในมาตรการที่เหมาะสม ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค ทำให้สถานการณ์ของไทย เราควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีกว่าหลาย ๆ ประเทศ” พลเอกประยุทธ์กล่าว

 

****************************  10 มีนาคม 2563

 

นายกรัฐมนตรีให้กำลังบุคลากรสาธารณสุขพร้อมมั่นใจ “เราต้องฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน”

นายกรัฐมนตรีให้กำลังบุคลากรสาธารณสุขพร้อมมั่นใจ “เราต้องฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน”

 

วันนี้ (10 มีนาคม 63) เวลา 16.20 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการดำเนินงานของทีมแพทย์ พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส  COVID-19  พร้อมฟังบรรยายสรุปการดำเนินงาน เยี่ยมชมการบริการ One Stop Service ห้องผู้ป่วยแยกโรค โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร รอให้การต้อนรับ

 

เมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมห้องผู้ป่วยแยกโรคโดยเฉพาะ ห้องผู้ป่วยแยกโรคติดเชื้อความดันลบ (Negative Pressure) สำหรับเตรียมรับผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายโดยมีทีมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เฉพาะ  ระบบการรับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยจากสนามบินหรือโรงพยาบาลต่างๆ การคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ หากพบผู้ต้องสงสัยว่าป่วย จะถูกนำเข้าระบบการรักษาตามมาตรฐานที่ดีที่สุดและมีการรายงานเข้าไปส่วนกลางทันที  ทั้งนี้ สถาบันบำราศนราดูรมีห้องผู้ป่วยแยกโรคติดเชื้อความดันลบ ระบบป้องกันอากาศโดยผ่านแผงกรองอากาศและทำลายเชื้อก่อนปล่อยออกไปสู่ภายนอก อุปกรณ์การแพทย์ทัดเทียมห้องไอซียู แยกทางเข้าและทางออกเพื่อ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ติดตั้งกล้องวงจรปิดและระบบการติดตามสัญญาณชีพส่ง ทีมพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่เฉพาะซึ่งจะมีการสวมใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อขณะทำหัตถการให้กับผู้ป่วยด้วย

 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาผ่านระบบวิดีโอห้อง nurse stationว่า  ขอให้หายไวๆ มีอาการดีขึ้น มั่นใจในตัวแพทย์และพยาบาลที่จะให้การรักษาอย่างดีและสามารถกลับบ้านได้  ทั้งรัฐบาลและคนไทยฝากความหวังไว้กับบุคคลากรทางการแพทย์และจะร่วมฝันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางต่อไปยังกรมควบคุมโรค เพื่อเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operations Center, EOC)  ภายใต้ระบบบัญชาการเหตุการณ์ โดยมีกลุ่มภารกิจต่างๆ อาทิ  ทั้งการรวบรวมข้อมูล ติดตาม ตรวจจับและประเมินสถานการณ์ แจ้งเตือนผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นๆ โดยได้มีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนท์ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับทราบสถานการณ์ทุกวัน

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ กล่าวให้กำลังใจและขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ได้ร่วมแรงกาย แรงใจและเสียสละเวลาช่วยกันแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อ COVID 19 รัฐบาลมีมาตรการดูแลผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่อยู่ในความเสี่ยง อยากให้ทุกคนช่วยกันสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร รายงานสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนข้อมูล ทุกเขตทุกภาคบูรณาการงานร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทุกคนคือข้าราชการของแผ่นดินที่ทุ่มเทเสียสละในการทำงานเมื่อประเทศไทยเกิดวิกฤติ นายกรัฐมนตรียังกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ช่วยสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ของตนเองเกี่ยวกับมาตรการรัฐในการตรวจคัดกรองตั้งแต่สนามบินต้นทาง กลางทางที่สนามบินในไทยและพื้นที่ปลายทางตามภูมิลำเนาต่างๆ จะมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ยังมีการเฝ้าระวังควบคุมในระดับพื้นที่ รวมทั้งจัดตั้งจุดคัดกรองตามช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวดเพื่อมิให้มีการเล็ดลอดเข้ามายังประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความมั่นใจว่า “เราต้องฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน”

 

 

………….

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

 

เว็บไซต์รัฐบาลไทย  เผยแพร่

matemnews.com 

10 มีนาคม 2563