Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ระทึก! ผู้ต้องขังเมียนมาชิงกุญแจห้องขัง ปล่อยเพื่อนร่วมชาติกว่า 400 ร้องขอกลับประเทศ

ระทึก! ผู้ต้องขังเมียนมาชิงกุญแจห้องขัง ปล่อยเพื่อนร่วมชาติกว่า 400 ร้องขอกลับประเทศ

265
0
SHARE

จนท.ตม.ระนอง ถูกผู้ต้องขังชิงกุญแจ ก่อนปล่อยเพื่อนร่วมชาติกว่า 400 คนเรียกร้องพบ จนท.ทูตเมียนมาร์ เพื่อเจรจาต้องการกลับประเทศหาก ไม่ได้ตามที่ขอจะไม่ยอมเข้าห้องขัง และจะไม่ยอมกินข้าว ซึ่งบางกลุ่มก็ได้ขึ้นไปตะโกนและชูป้ายโดยเขียนเป็นภาษาไทยว่า “พวกเราอยากกลับบ้าน ”

วันที่ 25 ม.ค. 64 ที่ ตม.ระนอง ถนนสะพานปลา จ.ระนอง แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้ชิงกุญแจจาก จนท.ตม.ขณะเข้าไปส่งอาหารผู้ต้องขัง จากนั้นผู้ต้องขังได้ไปเปิดห้องขังทุกห้องและปล่อยตัวผู้ต้องขังสัญชาติเดียวกัน จำนวน 402 คน ออกมารวมกันอยู่กันในโซนกลางภายในตึก แต่เจ้าหน้าที่ ตม.ได้รีบวิ่งหลบหนีลงมาทำการปิดล็อคประตูห้องขังที่อยู่ชั้น 1 หรือด้านล่างของตึกห้องขังได้ทัน ทำให้ผู้กักขังไม่สามารถออกมาจากอาคารได้ และผู้ต้องขัง ได้ตะโกนโห่ร้องและพยายามแสดงออกโดยแจ้งว่าต้องการประท้วงที่ถูกควบคุมตัวเพื่อรอการผลักดันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว บางรายอยู่มาเป็นระยะเวลา 4-5 เดือนแต่ยังไม่ได้รับการผลักดัน เนื่องจากทางการเมียนมายังปฏิเสธการรับตัวเนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิค 19 และมีความประสงค์ที่จะคุยกับทางการเมียนมาและต้องการคำตอบว่า จะสามารถรับตัวกลับประเทศได้เมื่อไหร่

ต่อมา นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าฯ ระนอง พล.ต.ต.ศรัณยู ชำนาญมาก ผกก.สภ.ระนอง พ.ต.อ.สมชาย จิตสงบ ผู้กำกับ ตม.จังหวัดระนอง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงได้เข้าทำการเจรจากับคู่กักขังโดยเบื้องต้นได้ประสานไปยังนาย เทะ เว เพียว ผู้ช่วยทูตแรงงานประเทศเมียนมาร์ ประจำประเทศไทย เพื่อที่จะเข้ามาเจรจากับผู้ต้องขัง ซึ่งขณะนี้ทางผู้ช่วยฑูตแรงงานประเทศเมียนมาได้อยู่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี คาดว่าน่าจะมาถึงระนองในช่วงเย็นเพื่อที่จะร่วมกันหาทางออกให้กับผู้ต้องขังชาวเมียนมาร์ทั้งหมด

ภายหลังจากที่ได้มีการชี้แจง-พูดคุยกับผู้ต้องขังชาวเมียนมาจนเป็นที่เข้าใจ ผู้ต้องขังทั้งหมดก็อยู่ในความสงบ และทั้งหมดก็ได้กลับเข้ามาอยู่ในห้องขัง ในเบื้องต้นผู้ต้องกักดังกล่าวไม่ได้ทำทรัพย์สินในอาคารเสียหาย และไม่ติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตม.ไทยแต่อย่างใด

และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ทางเจ้าหน้าที่ตม.ได้สนธิกำลังทหาร-ตำรวจกว่า 30 นาย และรถดับเพลิง เข้าทำการเฝ้าระวังบริเวณด้านหน้าห้องกักขัง พร้อมแก๊สน้ำตาและกระบองเพื่อเฝ้าระวังซึ่งอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นได้