Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ‘อนุทิน’ รับวัคซีนแอสตราฯ วันนี้ 117,000 โดส – เตรียมเปิดประเทศ!

‘อนุทิน’ รับวัคซีนแอสตราฯ วันนี้ 117,000 โดส – เตรียมเปิดประเทศ!

181
0
SHARE

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่าขณะนี้ไทยจัดซื้อวัคซีนของซิโนแวคแล้ว 2 ล้านโดส แอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส และสั่งเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดสโดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติจัดซื้อแล้ว เท่ากับไทยจะมีวัคซีนของแอสตราเซเนกา รวม 61 ล้านโดส และมีวัคซีนป้องกันโควิดรวมทั้งหมด 63 ล้านโดส

          นายอนุทิน เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายนี้ แอสตราเซเนกาจะส่งมอบวัคซีนล็อตแรกให้ไทยก่อน 117,000 โดส ซึ่งเป็นการจัดให้ตามคำร้องขอของไทย เนื่องจากมีเหตุระบาดรอบใหม่เมื่อต้นปี จึงจัดมาให้ไทยได้ใช้ก่อน โดยหลังได้รับมอบแล้วจะส่งให้กรมควบคุมโรคนำไปตรวจสอบประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ก่อนจะแจกจ่ายไปฉีดให้ประชาชนกลุ่มต่างๆให้เร็วที่สุด

          สำหรับการบริหารจัดการวัคซีน มีการตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 ตั้งเป้าหมายการฉีดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่การฉีดพอเป็นพิธี เพราะวัคซีนที่ได้มาแต่ละโดสต้องใช้ความพยายามจากทุกฝ่าย  ดังนั้นได้มาแล้วก็ต้องใช้ให้เกิดคุณค่ามากที่สุด จังหวัดที่ได้รับวัคซีนจะต้องเห็นอัตราการลดลงของการระบาด หรือเห็นว่าลดความรุนแรงของโรคอย่างชัดเจน ไม่ใช่การฉีดเพื่อเอาใจใคร

          สำหรับวัคซีนของซิโนแวคที่เข้ามา 2 แสนโดสแรก ฉีดไปแล้วกว่า 3 หมื่นคน โดยวัคซีนของซิโนแวคและแอสตราเซเนกา มีคุณสมบัติต่างกัน คือ ซิโนแวคจะฉีด 2 เข็มห่างกัน 14-28 วัน ไม่แนะนำให้ฉีดในคนสูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป  ซึ่งที่ได้มาล็อแรก 2 แสนโดส จะไม่สามารถฉีดให้กับคนทั้ง 2 แสนคนได้ เพราะต้องกันไว้สำหรับฉีดเข็มที่สองในคนที่ได้รับเข็มแรกไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องใกล้ชิดผู้ป่วยและผู้มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยง รวมทั้งเป็นการทดสอบระบบทั้งความพร้อมก่อนฉีดและการติดตามอาการหลังฉีด หลังจากนั้นในช่วงเดือนมีนาคม วัคซีนซิโนแวคมีกำหนดจะเข้ามาอีก 8 แสนโดส ส่วนแอสตราเซเนกาจะเข้ามาอีกในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นมิถุนายนนี้

          ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว เบื้องต้นยังไม่พบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ส่วนใหญ่มีอาการข้างเคียงเล็กน้อย มีไข้บ้าง ซึ่งตัวนายอนุทิน รับวัคซีนมาเข้าสู่วันที่ 8 แล้วก็ยังไม่มีอาการข้างเคียงที่เป็นทางลบ

          ส่วนคำถามว่าหลังฉีดวัคซีนแล้ว จะปรับมาตรการอย่างไร จะเปิดประเทศอย่างไร  การค้า การท่องเที่ยวจะประกอบธุรกิจได้เหมือนปกติที่สุดอย่างไร  ยังต้องกักตัวอีกหรือไม่  นายอนุทิน ระบุว่า  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแก้โจทย์นี้ให้ได้  ฉีดแล้วต้องกล้าเปิดประเทศ แต่ไม่ใช่การเปิดทันที เพราะต้องเก็บข้อมูลให้มากที่สุดว่าคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีอาการอย่างไร ใช้เวลากี่วันจึงจะมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งการรวบรวมข้อมูลของผู้ได้รับวัคซีนจะนำมาประกอบการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ หรือสร้างมาตรการ เพื่อให้กลับสู่สภาพปกติเร็วขึ้น  รวมทั้งจะมีการหารือเรื่องวัคซีนพาสปอร์ต ว่าต้องทำอย่างไรให้ได้รับการยอมรับ ได้มาตรฐานในระดับสากล  เพราะมีความกังวลเรื่องเล่มปลอม ลายเซ็นปลอม  ซึ่งกรมควบคุมโรคกำลังหาวิธีทำแบบดิจิทัล แต่ต้องคำนึงถึงต่างชาติด้วย เพราะขณะนี้ยังไม่มีชาติไหนที่ระบุว่า มีวัคซีนพาสปอร์ตแล้ว จะเดินทางได้อิสระ  รวมทั้งไทยจะรับวัคซีนพาสปอร์ตจากต่างชาติหรือไม่อย่างไร  ซึ่งเรื่องนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือกัน