25 ธันวาคม 2564 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปเด็กถูกทำร้าย จนเขียวช้ำที่ บริเวณต้นแขนซ้าย ต้นขา พร้อมโพสต์ข้อความว่า ครูต้องย้ายหรือไม่ก็ลาออก ผู้บริหารต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้ โรงเรียนเเห่งหนึ่ง ตรงข้ามศาลากลางสุพรรณบุรี ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับผู้ที่โพสต์รูปดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้พบเด็กชาย เอ (นามสมมุติ) เด็กที่ถูกทำร้าย และยังพบร่องรอยที่ช้ำเขียวที่บริเวณต้นแขนข้างซ้าย
จากการสอบถาม เด็กชายเอ อายุ 12 ปี (นามสมมุติ) กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตอนนั้นตนเองกำลังเปลี่ยนผ้านุ่งถุงแดงขณะที่กำลังเปลี่ยนผ้า ครู ก็เดินมาใช้ต่อยเจาะยางอย่างแรง มีรอยเขียวฟกช้ำ ซึ่งก่อนหน้าตนเองเคยโดนทำร้ายมา 3 ครั้งแล้ว ครั้งที่ตนโดน ครูใช้เข่าแทงตนเองอย่างแรง ซึ่งตนเองก็ไม่ได้กล้าบอกพ่อแม่ ครูคนนี้มีนิสัยอารมณ์ร้อน ตนไม่อยากกลับไปเรียน ซึ่งรอยเขียวช้ำที่ต้นแขนถูกครูต่อยเจาะยางอย่างแรง และทำกับตนเองบ่อยครั้ง ส่วนสาเหตุที่ตนเองโดนต่อยและเจาะยาง ครูบอกกับตนเองว่า แค่หยอกเล่น
ด้านนางสาวศิริกุล (ขอสงวนนามสกุล) แม่ของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) เผยว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์จากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โทรมาหาตนเอง และถามตนเองว่ารู้ไหม ลูกของตนเองถูกทำร้าย ลูกไม่เคยบอกตนเองเลย ซึ่งหลังจากรู้ข่าวตนเองก็ได้รีบเดินทางจากกรุงเทพมหานคร นัดเจอกับทีมงานของมูลนิธิปวีณา แล้วท่านปวีณาติดต่อทางผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ตนเองเดินทางไปทำเรื่องรับลูกที่โรงเรียนทันที พร้อมทั้งพาลูกไปตรวจร่างกาย และลงลงบันทึกประจําวันไว้ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรีด้วย ซึ่งตนก็ทราบมาว่าเบื้องต้นทางโรงเรียนดังกล่าว ทาง ผอ.ได้เรียกครูคนดังกล่าวมาตักเตือนแล้ว และทำทัณฑ์บนไว้ ซึ่งทางครอบครัวคิดว่าควรย้ายครูคนนี้ออกไป เพราะพฤติกรรมไม่สมควร หากครูคนนี้ยังอยู่ ลูกก็คงไม่อยากไปรร.อีกแล้ว
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) พี่ชายของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนเองเป็นพี่ชายและเป็นศิษย์เก่ารร.แห่งนี้ และเป็นรุ่นพี่ที่เคยเรียนโรงเรียนแห่งนี้มาก่อน ที่ผ่านมาไม่เคยมีครูคนไหนทำรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย สถาบันที่นี่ดีมาก แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นความประพฤติเฉพาะตัวบุคคล ซึ่งการกระทำกับเด็กแบบนี้ตนเองมองว่าไม่ใช่การหยอกล้อ แต่เป็นการทำร้ายร่างกาย และอยากฝากไปถึงผู้บริหารโรงเรียนแห่งนี้และครูคนที่กระทำรุนแรงกับเด็กว่า อยากให้มีบทลงโทษกับครูที่ทำกับเด็กอย่างเด็ดขาด และครูคนที่ทำร้ายเด็กให้กับไปมองตัวเองว่าการกระทำแบบนี้กับเด็กสมควรทำอย่างไรกับตัวของท่านเอง ซึ่งตนเองทราบมาว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เด็กคนแรกด้วย แต่เด็กไม่กล้าพูด อยากให้ทางโรงเรียนช่วยตรวจสอบพฤติกรรมครูท่านนี้ และทางครอบครัวจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อให้เด็กคนอื่นจะได้ไม่โดนแบบนี้อีก