http://www.thaigov.go.th
นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม คนร. ครั้งที่ 4/2560 เห็นชอบหลักการจัดตั้ง 3 บริษัท เครือ บ.พีอีเอ เอ็นคอมฯ ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายกรัฐมนตรีประชุม คนร.กำหนดให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง จัดทำแผนขับเคลื่อนองค์กรระยะยาวที่สอดคล้องกับภารกิจหลัก เน้นให้บริการประชาชน พร้อมเห็นชอบหลักการจัดตั้ง 3 บริษัทเครือ บ.พีอีเอ เอ็นคอมฯ ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ สำหรับพื้นที่ 3 จชต.
วันนี้ (11 ต.ค.60) เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 4/2560 โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ภายหลังการประชุม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คนร. ได้แถลงผลการประชุม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
คนร. เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมการและสร้างความเข้าใจในร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ) โดยมี นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการ เพื่อศึกษา วิเคราะห์ประเด็นที่ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ โดยให้จัดทำแผนและสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่สาธารณชน รวมทั้งประสานงานกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการสร้างการรับรู้ให้กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าใจว่าร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ นี้เป็นการปฏิรูประบบการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจโดยยังคงความเป็นรัฐวิสาหกิจไว้ และไม่ได้มีผลเป็นการแปรรูป หรือถ่ายโอนทรัพย์สินไปยังภาคเอกชนแต่ประการใด โดยเฉพาะองค์กรด้านแรงงานและประชาชนให้เข้าใจแนวทางการปฏิรูปตามร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ ดังกล่าว
พร้อมกันนี้ คนร. เห็นชอบแนวทางการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีองค์ประกอบเทียบเคียงกับร่าง พ.ร.บ. พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ เพื่อทำหน้าที่ในการคัดเลือกบุคคลที่มีทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และสอดคล้องกับสมรรถนะหลัก (Skill Matrix) และนำเสนอ คนร. พิจารณา นอกจากนี้ยังได้มีการกำหนดรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติ ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการสร้างความโปร่งใสในการสรรหาบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ
คนร. ยังได้พิจารณาเรื่องการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง เพื่อสร้างความยั่งยืนและแข็งแกร่งให้รัฐวิสาหกิจฟื้นฟู คนร. ได้กำหนดให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจัดทำแผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาวที่สอดคล้องกับภารกิจหลัก โดยเน้นการให้บริการแก่ประชาชน พร้อมนี้ ให้จัดทำแผนปฏิบัติการรายปีภายใต้แผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาวดังกล่าว และจัดส่งให้ฝ่ายเลขานุการ คนร. ภายในเดือนตุลาคม 2560 เพื่อนำเสนอ คนร. ต่อไป นอกจากนี้ คนร. ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาองค์กรของรัฐวิสาหกิจทั้ง 7 แห่ง ดังนี้
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และเป็นไปตามแผนที่กำหนด โดยมีการปล่อยสินเชื่อ SMEs เป็นไปตามเป้าหมาย มีการควบคุมค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income) ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) สุทธิสูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ธพว. ยังคงรักษา BIS Ratio ได้สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด นอกจากนี้ คนร. ได้ให้ ธพว. จัดทำแผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาวเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ธพว. รวมทั้งการปรับองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Transformation) ด้วย 2. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) มีความคืบหน้าด้านการสรรหาพันธมิตรที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสามารถลดต้นทุนเงินฝากได้ดีกว่าเป้าหมาย โดย คนร. ได้ขอให้เร่งพลิกฟื้นองค์กรให้ได้โดยเร็ว ควบคู่กับการดำเนินการสรรหาพันธมิตรให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2561
- บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) และ 4. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท) ได้จัดตั้งบริษัทโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN) ในการดำเนินธุรกิจเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำและอินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC) ในการดำเนินธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แล้ว และสามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2560
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) มีผลการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนที่กำหนด รายได้รวมใกล้เคียงกับเป้าหมาย และอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Cabin Factor) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่ง ทั้งนี้ คนร. ได้สั่งการให้เร่งนำระบบ Revenue Management System (RMS) และระบบ Network Management System (NMS) มาใช้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น และปรับกลยุทธ์ของ บกท. เชิงรุกมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับโอกาสจากการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและการปลดธงแดงขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) พร้อมทั้งกำกับดูแลคุณภาพการให้บริการให้เหมาะสมด้วย
- องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) คนร. ให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งกำหนดหลักเกณฑ์และเพิ่มจำนวนเส้นทางนำร่องการประมูลเส้นทางเดินรถใหม่สำหรับผู้ประกอบการ และขอให้ ขสมก. เร่งดำเนินการจัดซื้อรถ NGV จำนวน 489 คันให้แล้วเสร็จโดยเร็วนอกจากนี้ ขสมก. ได้เริ่มดำเนินการติดตั้งระบบ E-Ticket และระบบตรวจสอบและติดตามการเดินรถ (GPS) ในรถโดยสารปัจจุบันแล้ว และจะได้เชื่อมโยงระบบดังกล่าว ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการปรับองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Transformation) ของ ขสมก. และจัดทำแผนและให้ความสำคัญกับบุคลากรในช่วงเปลี่ยนผ่าน
- การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดย คนร. ได้เห็นชอบในหลักการเรื่องรูปแบบการบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) โดยให้ รฟท. จัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเดินรถและซ่อมบำรุง (Operation & Maintenance) และให้จัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารสินทรัพย์ของ รฟท. ทั้งนี้ มอบหมายให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรพิจารณารายละเอียดให้มีความชัดเจนและรอบคอบ และให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไปและสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้ที่มีส่วนได้เสียด้วย
นอกจากนี้ คนร. เห็นชอบในหลักการการจัดตั้งบริษัทในเครือของบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด จำนวน 3 บริษัท เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของแผนงานผลิตไฟฟ้าชุมชนจากชีวมวล โดยบริษัทในเครือดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและสร้างงานสร้างอาชีพ โดยการรับซื้อไม้ยางพาราจากประชาชนในพื้นที่เป็นลำดับแรก เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงแก้ปัญหาการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ไม่เพียงพอ ลดการพึ่งไฟฟ้าที่ผลิตจากภาคกลางและการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศโดยให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำกับดูแลบริษัทในเครือที่จัดตั้งขึ้นให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีต่อไป
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
(ข้อมูลจากฝ่ายเลขานุการ คนร.)
Matemnews.com 11 ตุลาคม 2560