Home ข่าวทั่วไปรอบวัน กปปส.ทวงปฏิรูป 3 ข้อก่อนเลือกตั้ง

กปปส.ทวงปฏิรูป 3 ข้อก่อนเลือกตั้ง

684
0
SHARE

 

 

หลังจากที่ พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  แถลงข่าวเมื่อวันอังคาร 10 ต.ค.2560  จะประกาศเลือกตั้งใหม่ในเดือนมิ.ย.2561 จะจัดเลือกตั้งในเดือน พ.ย.2561 ก็ปรากฏว่าแค่ข้ามคืน กปปส.ได้เคลื่อนไหวแล้ว โดย นายถาวร เสนเนียม แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อบ่ายวันที่ 11 ต.ค.2560ว่า   นักการเมืองคงดีใจที่จะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง   แต่สำหรับมวลมหาประชาชน   และ กปปส.แล้ว การเลือกตั้งจะเร็วหรือช้า ไม่มีผลใดๆกับเรา แต่อยากให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทำการปฏิรูปประเทศตามที่เคยได้ประกาศไว้ว่า จะปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งเหลือเวลาอีก 1 ปี ก็ควรจะปฏิรูป ให้ได้ 3 เรื่อง ซึ่งที่เป็นข้อเสนอของมวลมหาประชาชน คือ

 

  1. การทำพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชนโดยแท้จริง โดยการขจัดกลุ่มทุนสามานย์ที่ใช้ทุนจากากรทุจริตเพื่อเอาคนของตัวเองเข้าสู่อำนาจเพื่อมาถอนทุนโดยการทุจริตคอร์รัปชั่น หรือการขจัดพรรคการเมืองที่ยังเป็นทาสรับใช้ของทุนสามานย์ เพราะการที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดให้มีไพรมารี่โหวต ยังไม่พอ ต้องไปเขียนในกฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมายหลาน โดยระบุเจาะจงให้ชัดเจนในการตรวจสอบแหล่งที่มาเงินทุนเหล่านี้ เพื่อตรวจสอบถึงแหล่งเงินทุนของกลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไม่ให้นายทุนสามานย์เข้ามาเป็นเจ้าของพรรค หรือทำตัวเป็นนายทาส ส.ส.

 

  1. การปฏิรูปตำรวจ ต้องเป็นการปฏิรูปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ปฏิรูปเพื่อประโยชน์ของตำรวจ เพราะเท่าที่เห็น การเอาพล.อ. บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ มาเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและตำรวจของรัฐบาลคสช. แต่กรรมการกลับเป็นตำรวจทั้งหมดก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างขององค์กรตำรวจเพื่อประโยชน์ของประชาชนที่แท้จริงได้ แต่ควรจะฟังความเห็นของประชาชน นักวิชาการ เช่น พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ นายวิทยา แก้วภราดัย เป็นต้น เพราะการปฏิรูปตำรวจที่ทำอยู่ เวลานี้ บอกได้คำเดียวว่า หมดหวัง แต่เวลา 1 ปี ที่เหลือยังสามารถปรับเปลี่ยนทบทวน แก้ไขได้ ยังไม่สาย อยู่ที่ความจริงใจว่า จะทำหรือไม่

 

  1. การปฏิรูปการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น แม้ขณะนี้จะมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลอาญาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งสามารถพิจารณาคดีลับหลังผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีได้ แต่ควรมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้ประชาชนในฐานะเจ้าของเงินภาษีสามารถเป็นโจทก์ฟ้องร้องคดี การทุจริตได้ ในฐานะที่ประชาชนเป็นผู้เสียหายโดยตรงในคดีการทุจริตทุกเรื่อง และเป็นคดีที่ไม่มีอายุความ รวมถึงการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น ไม่ใช่ทำรัฐประหารแล้วกลับรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางและภูมิภาค แต่ส่วนท้องถิ่นกลับถูกยึดอำนาจลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะด้านการคลัง และการใช้งบประมาณ การกล่าวอ้างว่าส่วนท้องถิ่นมีการทุจริตมาก ทั้งที่ส่วนกลางและภูมิภาคก็มีการทุจริตคอร์รัปชันเช่นกัน ถ้ากฎหมายปราบโกงกำหนดให้คดีทุจริตไม่มีอายุความ โดยประชาชนสามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ คดีทุจริตเหล่านี้จะลดลง

 

ดังนั้นการที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 2561 ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากเลือกตั้งไปโดยที่ยังไม่มีการปฏิรูปให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง ก็คาดการณ์ได้ว่าการเมืองจะกลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์ ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม จะเกิดเผด็จการรัฐสภาโดยเสียงข้างมาก จะละเลยหลักนิติรัฐ นิติธรรม โดยอ้างว่าเขาได้รับเสียงสวรรค์มาจากประชาชน มีสิทธิ์ทำทุกเรื่อง ถูกต้องเพราะผ่านฉันทามติประชาชนมาแล้วเหมือนที่เคยเป็นมา จึงขอให้ คสช.ทบทวน และเร่งปฏิรูปอย่างน้อย 3 เรื่อง อย่างที่เสนอ ในเวลา 1 ปี ถ้าตั้งใจจริงสามารถทำทันได้ มิเช่นนั้นแล้วการรัฐประหารครั้งนี้ก็จะเสียของ สูญเปล่า เสียโอกาสประเทศ

 

 

Matemnews.com  11 ตุลาคม 2560