ตามที่ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้เหตุผลแก่นักข่าวว่า การที่แต่งตั้งลูกสาวให้เป็นเลขานุการส่วนตัวในการทำงานให้แก่ คสช. เพื่อรักษาความลับของ คสช.นั้น ปรากฏว่าความลับกำลังไล่ล่าแล้ว โดยเมื่อตอนเช้าวันที่ 31 ต.ค.2560 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แถลงแก่ผู้สื่อข่าวว่า จะไปยื่นคำร้องให้ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” เอาผิดทั้งหัวหน้า คสช.และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ โดยจะให้เหตุผลประกอบการยื่นคำร้องว่า
การแต่งตั้งบุตรสาวนายมีชัยดังกล่าว อาศัยอำนาจตามประกาศ คสช.ที่ 6/2560 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 กำหนดอัตราเทียบเท่าข้าราชการการเมือง รับเงินเดือนละ 47,500 บาท เข้าข่ายเอื้อประโยชน์ระหว่างหัวหน้า คสช.และนายมีชัย โดยใช้เงินภาษีของประชาชนเป็นค่าตอบแทน ผ่านกลไกการออกประกาศที่มีฝ่ายกฎหมายเป็นคนยกร่าง
นอกจากนี้ เข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของรัฐ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการ การเมือง พ.ศ.2551 ข้อ 8 ข้อ 14 ข้อ 16 และข้อ 22 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. มาตรา 100 และมาตรา 103 วันพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. จะนำหลักฐานไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อไต่สวนเอาผิดและระงับยับยั้ง การใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว
เช้าวันเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงแก่ผ้สื่อข่าว ว่า นายมีชัยจะพูดอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่สังคมตัดสินได้ว่าเหตุผลดังกล่าวฟังขึ้นหรือไม่ ถ้าทุกคนยึดหลักคิดแบบนายมีชัย คงต้องตั้ง ลูก ภรรยา คนในครอบครัว มาช่วยรักษาความลับกันหมด งานด้านข่าวกรอง ด้านความมั่นคง ก็ยิ่งต้องตั้งคนใกล้ชิดมาช่วยรักษาความลับ แต่คนอื่นๆก็ไม่ได้ตั้งอย่างที่นายมีชัยตั้ง วันนี้สังคมตั้งคำถามว่า การที่นายมีชัยตั้งลูกสาวเป็นรองเลขาธิการฯ มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ขัดต่อจริยธรรมคุณธรรมหรือไม่ นายมีชัยทำหน้าที่สำคัญทั้งในคสช.และกรธ.แต่กลับทำให้สังคมตั้งคำถามถึงมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมที่ควรจะปฏิบัติเป็นแบบอย่าง หลักกฎหมายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ถูกตั้งคำถามว่าบังคับใช้เฉพาะบางกลุ่มและมีบางคนบางกลุ่มได้รับข้อยกเว้นหรือไม่ หากนายมีชัยมีวิธีคิดที่อาจเป็นปัญหาต่อมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรม สังคมจะไม่ไว้วางใจนายมีชัย ซึ่งจะเป็นปัญหากระทบต่อการทำงานของคสช.และกรธ.ในอนาคต
Matemnews.com 31 ตุลาคม 2560
