“การปรับครม.ก็เป็นวิธีการหนึ่งของการบริหารราชการของข้าราชการการเมือง ที่เรากำลังทำหน้าที่นี้อยู่ แต่จะมีการปรับลดโควต้าทหารลงหรือไม่นั้น ผมไม่เข้าใจทำไมต้องรังเกียจทหาร และถามว่าในช่วงแรกก่อนมีครม. ที่ยังไม่มีพลเรือนเข้ามา ใครเป็นคนทำทุกอย่างเริ่มต้นไว้ให้ วันนี้จำเป็นก็ต้องปรับเพียงเท่านั้น และยืนยันว่าไม่มีโควต้าทหาร ตำรวจและพลเรือน จึงขออย่าวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเอาคนนั้นคนนี้เข้ามา เอาผบ.ตร. เข้ามา ผมจะไม่ใช้วิธีการนั้นในการปรับครม. แต่การปรับจะพิจารณาจากผลงานและสถานการณ์ การปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติให้เดินหน้าไปได้ เพื่อไม่ให้เสียของ รวมถึงรับฟังเสียงประชาชนด้วย ยืนยันว่าทุกคนไม่มีบกพร่อง แต่อาจจะไม่ถูกใจบ้าง ขอให้นำเหตุผลมาพูดกันรวม ถึงสื่อที่รู้ดีทั้งหมดให้ช่วยผมคิดด้วย และหากปรับครม. แล้วยังไม่ดีขึ้นแสดงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่คน แต่อยู่ที่ระบบที่ผิดเพี้ยนมายาวนาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเรื่องปรับครม.ยืนยันผมจะทำให้ดีที่สุด ทำอย่างไรให้การปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติเดินหน้าไปให้ได้ ถือเป็นปัจจัยที่ผมคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปในอนาคต ทั้งการปรับครม.และการปลดล็อคต่างๆ จึงขออย่าให้วุ่นวายอีกเลย และที่มีคำว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นกล่องดวงใจของนายกฯ ซึ่งกล่องดวงใจผมคือครอบครัว นอกนั้นคือเพื่อนร่วมงาน เป็นธรรมดา หรือใครไม่มีเพื่อนฝูง แต่มันก็มีลิมิตของผมว่าจะวางตัวอย่างไร งานก็คืองาน ส่วนตัวคือส่วนตัว ผมไม่เคยเอาส่วนตัวมาปนกับงาน จึงต้องไปดูผลงานที่เขาทำมีอะไรบ้าง ใครมาเป็นรมว.เกษตรฯ แม้กระทั่งนักการเมืองก็โดนทุกที ถ้าใช้เงินกับประชาชนเต็มที่ผิดถูกก็ไม่ว่า แต่ได้รับความชื่นชม ผมไม่เข้าใจสังคมเป็นอะไร ผมไม่โมโหท่านแต่ต้องทำความเข้าใจมากขึ้น อย่าใช้คำว่าเป็นกล่องดวงใจ กล่องเงิน ไม่มีผมทำของผมเองได้”
ข้างต้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวมในกาแถลงข่าวหลังประชุมครม. เมื่อบ่าย 7 พ.ย.2560
matemnews.com 7 พฤศจิกายน 2560
