Watana Muangsook
“หนากว่านี้มีอีกมั้ย”
ถ้าพลเอกประวิตรไม่ตกคณิตศาสตร์ก็คงหาเรื่องอยู่ในอำนาจต่อ เพราะการไม่ปลดล็อคการเมืองจนกว่าใกล้เลือกตั้งจะทำให้การเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามกฎหมายการปลดล็อคจนถึงวันเลือกตั้งเสร็จสิ้นสมบูรณ์จะต้องใช้เวลาประมาณ 330 วัน ได้แก่ 180 วัน สำหรับพรรคการเมืองทำกิจกรรมตามมาตรา 141 แห่ง พรป. พรรคการเมือง หากไม่เสร็จพรรคจะไม่มีสิทธิส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง และอีก 150 วันเพื่อจัดการเลือกตั้งตามมาตรา 268 แห่งรัฐธรรมนูญ
ขณะนี้กฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. แล้ว จะใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 90 วัน รวมถึงขั้นตอนการส่งศาลรัฐธรรมนูญและ กกต. หรือภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2561 กฎหมายต้องนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ดังนั้น หากปลดล็อควันที่ 15 ธันวาคม 2560 เราจะมี ส.ส. ครบจำนวนได้เร็วสุด 15 พฤศจิกายน 2561 ปัญหาจะเกิดขึ้นหากกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายมีผลบังคับก่อน 15 มิถุนายน เพราะจะทำให้การจัดการเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญ
วันปลดล็อคการเมืองคือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องปลดล็อคทันทีไม่เช่นนั้นจะทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปจนขัดต่อรัฐธรรมนูญ การยืดเวลาปลดล็อคคือการจงใจเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปซึ่งหากการเลื่อนนั้นเป็นผลให้การเลือกตั้งไม่แล้วเสร็จใน 150 วัน จะทำให้พรรคที่หนุน คสช. ถือโอกาสร้องให้การเลือกตั้งสิ้นผลเพื่อให้คสช. อยู่ในอำนาจต่อ ดังนั้น การไม่ปลดล็อคคือเจตนาของเผด็จการที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป เพียงแต่ประชาชนไม่ได้ถูกซ่อมจนสมองส่วนหน้าขาดการพัฒนาเลยรู้เท่าทัน ใครอยากฟังเรื่องนี้โดยละเอียดกรุณาติดตามได้ในรายการคืนวันสุข ผมจะไปชำแหละความหนาของเผด็จการให้ฟัง
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
Matemnews.com 4 ธันวาคม 2560
.