พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(โฆษก ตร.) แถลงแก่ผู้สื่อข่าวที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อบ่าย 24 ธ.ค.2560 ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ว่า
ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) รับมอบนโยบายจากทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้อำนวยความสะดวกและดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้ออกมาตรการ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั่วประเทศ
สถานการณ์การข่าวนั้น ทาง ตร.ได้ดำเนินการพร้อมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ตรวจสอบข้อมูลด้านการข่าว มีมาตรการเข้มในการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าออกจากต่างประเทศ ดำเนินการตามปกติอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว
การดูแลพลเมืองต่างชาติ ตามนโนบายรัฐบาล มอบหมายให้ ตร.ดูแลความปลอดภัยชาวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยว โดยจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุมและเรียบร้อย เรื่องนี้มีการดำเนินการเป็นพิเศษ และปฏิบัติอย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว
ในส่วนของ บช.น. ถือเป็นพื้นที่แรกที่ประชาชนจะออกเดินทางไปต่างจังหวัด และเป็นที่แรกที่ต้องกวดขันวินัยจราจร หากผู้ขับขี่จักรยานยนต์(จยย.) ไม่สวมหมวกกันน็อก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลรักษารถของท่านไว้ จนกว่าจะมีมาตรการที่ปลอดภัย เช่น นำหมวกกันน็อกมาสวมใส่ แล้วขับรถออกไป หรือนำรถปิกอัพมายกรถออกไป หากยังไม่ปลอดภัยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ให้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป และจะถูกจับกุม เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ มีการจัดกิจกรรมหลายอย่าง อาทิ คริสมาสต์ เคาท์ดาวน์
บช.น.มีนโยบายดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทาง กวดขันวินัยจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุ ส่งเสริมกิจกรรมการสวดมนต์ข้ามปี ทำความดีข้าม พ.ศ. คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 1 แสนคน อะไรที่เป็นเหตุปกติหรือน่าสงสัย ขอให้พี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตรวจสอบได้ทันที ซึ่งตำรวจจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนมีความสุขช่วงปีใหม่
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวในการแถลงข่าวนี้ว่า บช.น.มีนโยบายบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
โดยมาตรการที่ 1.เรื่องสวมหมวกกันน็อก สำหรับผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ประชาชนที่เป็นคนขับขี่ หรือซ้อนท้ายต้องสวมหมวกกันน็อก
2.เมาไม่ขับ
3.การดูแลสถานบริการในพื้นที่เซฟตี้โซน(safety zone) ที่มีการเฉลิมฉลอง ส่วนระยะเวลาการผ่อนปรนเวลาเปิดปิดสถานบริการนั้น คงให้เฉลิมฉลองต่อเนื่องระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.ต่อเนื่องไปในวันที่ 1 ม.ค.พอสมควร แต่จะไม่ผ่อนผันในเรื่องการดื่มสุรา และขับขี่รถโดยเด็ดขาด
ฝากสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ สำหรับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางไปยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะในวันที่ 29 ธ.ค.2560 เชื่อได้ว่าการจราจรจะติดขัดเป็นอย่างมาก ขอให้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อม ในการคำนวณการเดินทางก่อนอย่างน้อย 2 วัน อย่างในวันที่ 27-28 ธ.ค. หากว่างก็ควรทยอยเดินทางออกไปต่างจังหวัดได้เลย เพราะหากเดินทางพร้อมกันในวันเดียว อาจทำให้จราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้นได้
การตั้งจุดตรวจจุดสกัดนั้น จะเป็นด้านมั่นคงทั้งหมด 27 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และอีก 88 สถานีตำรวจนครบาล จะมีการตั้งด่านอย่างเข้มข้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน มีจุดตรวจ จุดสกัด จำนวน 115 แห่ง
ในด้านบริการเราแบ่งเอาไว้ตั้งแต่บริเวณสายใต้ใหม่ ด้านตะวันออก ตะวันตก ใช้กำลังพล 15,000 นาย มีกำลังจากจิตอาสารวม 5,000 นาย
มีโครงการประชารัฐร่วมใจของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ให้ประชาชนฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้าน และฝากบ้านไว้กับสถานีตำรวจ
matemnews.com 24 ธันวาคม 2560