หลังจากที่ พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์โจมตีร่างสัญญาประชาคมเพื่อการปรองดองทั้ง 10 ข้อเมื่อบ่ายวันที่ 10 ก.ค.2560 แล้ว ต่อมาตอนเช้า 21 ก.ค. 2560 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลษโหม ผู้ริมเริ่มโครงการปรองดองก็ยังคงเดินหน้าต่อไปเต็มที่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองครั้งสุดท้าย ที่กระทรวงกลสาโหม เพื่อสรุปความคิดเห็นร่างสัญญาประชาคมภายหลังจากที่มีการจัดเวทีสาธารณะในพื้นที่ 4 กองทัพภาค เมื่อวันที่ 17 -20 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างแถลงข่าวนักข่าวได้ถามพล.อ.ประวิตรว่า พรรคเพื่อไทยปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสัญญาประชาคมจะส่งผลอะไรหรือไม่ ตอบว่า
“ไม่ส่งผลอะไร เพราะเรารับฟังและชี้แจงทุกรายละเอียดให้ประชาชนทั้ง4 กองทัพภาคแล้ว เมื่อผ่านที่ประชุม ป.ย.ป.ก็จะไปแถลงรายละเอียดทั้งหมดผ่านโทรทัศน์ จากนั้นจะนำสัญญาประชาคมลงไปให้ประชาชนทุกหมู่บ้านรับทราบ โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และ กอ.รมน.จังหวัด ดำเนินการ ในเมื่อพรรคเพื่อไทยไม่เปลี่ยนท่าทีและยังพูดแบบเก่าๆ เราจึงต้องฟังความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การตัดสินคดีรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับคดีของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. จะส่งผลกระทบการสร้างความปรองดองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า
“คดีเป็นเรื่องของศาล และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งฝ่ายบริหารไม่ได้เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อกระบวนการสร้างความปรองดอง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนเช้าวันที่ 21 ก.ค.2560 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ไปที่ศาลฎีกาคดีอาญานักการเมือง เพื่อร่วมฟังการไต่สวนคดีรับจำนำข้าวเป็นนัดสุดท้าย โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจ?ศาลหน้าจำนวนมาก ตำรวจใช้ 2 กองร้อยดูแลเหตุการณ์ทุกอย่างเรียบร้อย
Matemnews.com 21 กรกฎาคม 2560