‘พิชัย’ ชี้ ‘ประยุทธ์’ ไม่เข้าใจระบบการบริหารงานช่วยเหลือคนจนไม่ได้ เลยมาโทษนโยบาย ‘ประชานิยม’ ว่าเป็นต้นเหตุก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ เตือนระวังอย่าสร้างใส่ร้าย ‘ประชานิยม’ จนเป็นกับดักทำประเทศไม่พัฒนาไปไหน
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ตอนหนึ่งว่า การใช้งบประมาณประเทศ รวมทั้งการใช้งบประมาณที่ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และไม่เกิดการบูรณาการซึ่งกันและกัน ทำให้สิ้นเปลือง ไม่คุ้มค่า และไร้ประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การแก้ปัญหาเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อยนั้น ไม่เป็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่ผ่านมาอาจจะเน้นประชานิยม ทำให้ปัญหายังคงวงเวียนอยู่ในสังคมทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะก่อความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย มองประเด็นนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์อาจไม่เข้าใจระบบการบริหารงานของรัฐบาลจากทั่วโลก การช่วยคนมีรายได้น้อยไม่ว่าจะเรียกว่า ประชานิยม หรือ เรียกนโยบายอะไรก็ตาม ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทั่วโลกต้องทำเป็นอย่างแรกและเป็นหน้าที่หลัก เพราะการช่วยเหลือคนจนและคนด้อยโอกาสให้มีรายได้ที่มากขึ้นนั้น จะทำให้คนเหล่านี้มีกำลังในการจับจ่ายมากขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น และตัวเลข GDP ก็จะสูงขึ้นด้วย
การที่ประเทศจะพัฒนาเป็นประเทศที่มีรายได้สูงนั้น สิ่งแรกคือต้องช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงก่อน ไม่ใช่แค่การแจกเงิน การใส่ร้ายว่า ‘ประชานิยม’ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล ติดกับดักไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจประเทศได้ ปัญหาก็จะเกิดขึ้นตามมา ความเหลื่อมล้ำก็จะเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่ารัฐบาลได้เบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วกว่า 900,000 ล้านบาทช่วยผู้มีรายได้น้อย ถามว่าเป็นประชานิยมหรือไม่ เหตุใดถึงไม่ได้ผล ขอรายละเอียดก็ไม่ยอมบอก ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีการรั่วไหล คอรัปชั่น หรือไม่ อยากให้มีการตรวจสอบ
หากรัฐบาลยังติดกรอบเรื่อง ‘ประชานิยม’ และการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนี้ เลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยก็จะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ที่ผ่านพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทย ก็ต่างมีนโยบายหลักคือการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ต้องทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง เช่น กองทุนหมู่บ้าน โอทอป SME SML เป็นต้น กลายเป็นที่ประชาชนชื่นชอบ และทำให้ชนะการเลือกตั้งมาโดยตลอด แต่คนอื่นอาจมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีจนนำประเด็นนี้มาโจมตีว่า ‘ประชานิยม’ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ทั้งที่ไม่ได้ทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็ไม่ได้เพิ่มมาก น่าจะเป็นเพราะรัฐบาลอยากทำแต่ทำไม่ได้ผล เลยมาโจมตีรัฐบาลที่แล้วใช่หรือไม่ ?
นายพิชัย ยืนยันว่าความสำเร็จของรัฐบาลชี้วัดจากการช่วยเหลือคนจน พร้อมย้ำว่า ต้องเลิกใช้วาทกรรมโจมตี ‘ประชานิยม’ หรือ การช่วยเหลือผู้มี่รายได้น้อยนี้ได้แล้ว เพราะคนที่เสียประโยชน์คือประชาชนส่วนใหญ่ที่มีรายได้น้อย และ ประเทศชาติที่จะเสียโอกาสในการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แต่จะช่วยเฉพาะคนรวย เพราะที่ผ่านมาผลสำรวจจากโพลต่างๆออกมาระบุว่าการใช้จ่ายงบประมาณของประชาชนน้อยลง และขอให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว รวมทั้งผลโพลที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เกิดจากประชาชนคิดถึงนโยบาย ‘ประชานิยม’ ใช่หรือไม่?
อีกทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่ารัฐบาลได้เบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วกว่า 900,000 ล้านบาทช่วยผู้มีรายได้น้อย ถามว่าเป็นประชานิยมหรือไม่ เหตุใดถึงไม่ได้ผล ขอรายละเอียดก็ไม่ยอมบอก ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีการรั่วไหล คอรัปชั่น หรือไม่ อยากให้มีการตรวจสอบ
หากรัฐบาลยังติดกรอบเรื่อง ‘ประชานิยม’ และการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนี้ เลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยก็จะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ที่ผ่านพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทย ก็ต่างมีนโยบายหลักคือการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ต้องทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง เช่น กองทุนหมู่บ้าน โอทอป SME SML เป็นต้น กลายเป็นที่ประชาชนชื่นชอบ และทำให้ชนะการเลือกตั้งมาโดยตลอด แต่คนอื่นอาจมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีจนนำประเด็นนี้มาโจมตีว่า ‘ประชานิยม’ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ทั้งที่ไม่ได้ทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็ไม่ได้เพิ่มมาก น่าจะเป็นเพราะรัฐบาลอยากทำแต่ทำไม่ได้ผล เลยมาโจมตีรัฐบาลที่แล้วใช่หรือไม่ ?
นายพิชัย ยืนยันว่าความสำเร็จของรัฐบาลชี้วัดจากการช่วยเหลือคนจน พร้อมย้ำว่า ต้องเลิกใช้วาทกรรมโจมตี ‘ประชานิยม’ หรือ การช่วยเหลือผู้มี่รายได้น้อยนี้ได้แล้ว เพราะคนที่เสียประโยชน์คือประชาชนส่วนใหญ่ที่มีรายได้น้อย และ ประเทศชาติที่จะเสียโอกาสในการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แต่จะช่วยเฉพาะคนรวย เพราะที่ผ่านมาผลสำรวจจากโพลต่างๆออกมาระบุว่าการใช้จ่ายงบประมาณของประชาชนน้อยลง และขอให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว รวมทั้งผลโพลที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เกิดจากประชาชนคิดถึงนโยบาย ‘ประชานิยม’ ใช่หรือไม่?
Matemnews.com
22 กรกฎาคม 2560