Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์แถลงข่าวหลายประเด็นหลังประชุมครม.

พลเอกประยุทธ์แถลงข่าวหลายประเด็นหลังประชุมครม.

622
0
SHARE

 

 

เว็บไซต์  รัฐบาลไทย  http://www.thaigov.go.th  รายงานข่าวภารกิจของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าประชุมค   ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนเช้าวันที่ 30 ม.ค.2561 และการแถลงข่าวหลังประชุมครมงแล้ว  ในหลายปีพเด็นประกอบด้วย

 

วันนี้ (30 มกราคม 2561) เวลา 08.30 น. ณ บริเวณโถงชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาตินำคณะเข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ เนื่องในโอกาสวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2561

 

ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้ เพื่อระลึกถึงวันประวัติศาสตร์ของการจดทะเบียนและทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรการประดิษฐ์ “เครื่องกลเติมอากาศที่มีผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย”หรือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ซึ่งเป็นสิทธิบัตรในพระปรมาภิไชยพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของไทยและเป็นครั้งแรกของโลก โดยในปีนี้ “งานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2561 (Thailand Inventors’ Day 2018)” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 6 กุมภาพันธ์ 2561 ณ Event Hall 98 – 99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดพร้อมมอบรางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ รางวัลผลงานวิจัย รางวัลวิทยานิพนธ์ ประจำปี 2560 รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2561 และรางวัล TWAS Prize for Young Scientists in Thailand ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 09.00 น.

 

สำหรับงานในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้รูปแบบกิจกรรม “ตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม” เพื่อเป็นการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมพร้อมใช้และความก้าวหน้าด้านการประดิษฐ์คิดค้นของประเทศให้เกิดการขยายผลและนำไปใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ

 

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ นิทรรศการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร นิทรรศการรางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ นิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลจากเวทีนานาชาติ นิทรรศการสิ่งประดิษฐ์จากภูมิปัญญาไทย นิทรรศการสิ่งประดิษฐ์เพื่อสังคมผู้สูงวัย นิทรรศการบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย และบัญชีนวัตกรรมไทย และนิทรรศการ “ตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 3” มหกรรมสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ โดยแบ่งกลุ่มผลงานออกเป็น 7 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่อความมั่นคง กลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเกษตร กลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่ออุตสาหกรรม กลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่อสังคม กลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่อการแพทย์และสาธารณสุข กลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่อพลังงาน กลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

 

นอกจากนี้ ยังมีการประชุม สัมมนา และการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติ และสิ่งประดิษฐ์ระดับเยาวชน การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การประดิษฐ์เพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ รวมถึงการให้บริการและคำปรึกษาทางธุรกิจสำหรับนักประดิษฐ์ ที่ต้องการต่อยอดผลงานสู่การเพิ่มมูลค่าในเชิงพาณิชย์ เป็นต้น ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

 

ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โทรศัพท์ 02-579-2288 , 02-561-2445 ต่อ 507 และ 509 เว็บไซต์: http://inventorday.nrct.go.th

 

………………………..

วันนี้ (30 มกราคม 2561) เวลา 08.40 น. ณ บริเวณโถงชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ประธานมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นำคณะกรรมการฝ่ายจำหน่ายดอกไม้เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบ “ดอกป๊อปปี้” เนื่องในโอกาสงาน “3 กุมภาพันธ์ ดอกป๊อปปี้บานวันทหารผ่านศึก” ส่งน้ำใจ รำลึกถึงวีรกรรม ความเสียสละของทหารผ่านศึก ทุกเหล่าทุกสมรภูมิและทุกพื้นที่ ด้วยการเชิญชวนประชาชนช่วยอุดหนุนซื้อดอกป๊อปปี้ของมูลนิธิฯ เพื่อนำรายได้ช่วยเหลือครอบครัวทหารผ่านศึก ซึ่งจะมีสายจำหน่ายต่างๆ ออกไปจำหน่ายทั่วไปในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีอาสาสมัครหลากหลายสาขาอาชีพรวมน้ำใจ เพื่อเชิญชวนให้กลัดดอกป๊อปปี้บนปกหรือกระเป๋าเสื้อ

 

ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยได้ผ่านสงครามมาหลายครั้ง นับตั้งแต่กรณีพิพาทอินโดจีน ฝรั่งเศส สงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม และการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีทหารผ่านศึกเป็นจำนวนมากที่รัฐจะต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ จึงได้จัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ให้เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สงเคราะห์ทหารผ่านศึกทั้งปวง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

 

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในเดือนสิงหาคม 2488 ทหารที่เข้าปฏิบัติการรบได้รับการปลดนอกประจำการเป็นจำนวนมาก และโดยกระทันหัน สภาพบ้านเมืองตกอยู่ในภาวะยุ่งยากสับสน การครองชีพทวีความคับแค้นยิ่งขึ้น ทหารผ่านศึกต้องได้รับความเดือดร้อนจากสภาพดังกล่าว  รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา และเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องให้การช่วยเหลือแก่ทหารผ่านศึก จึงมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดำเนินงาน ในขั้นแรกได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นช่วยเหลือทหารผ่านศึก คณะกรรมการได้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น เพื่อให้เป็นหน่วยงานถาวรทำหน้าที่ให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึก พระราชบัญญัติฉบับนี้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2491 องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จึงได้จัดตั้งขึ้น นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เป็นวันทหารผ่านศึกอันเป็นการรับรู้สิทธิของทหารผ่านศึกอย่างเป็นทางการและถาวรสืบไป ในวันทหารผ่านศึกได้มีพิธีเฉลิมฉลองเป็นประเพณีประจำทุกปี

 

โดยการจัดทำดอกป๊อปปี้อันป็นสัญญลักษณ์ของทหารผ่านศึกขึ้นจำหน่าย โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 และได้ทำเรื่อยมาจนกระทั่ง ปี 2517 สโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ได้แปรสภาพเป็น “มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก” เนื่องจากขอบข่ายของการสงเคราะห์กว้างขวางขึ้น และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รับเป็นองค์อุปถัมภ์

 

มูลนิธิฯ นำดอกไม้ที่จัดทำขึ้นนี้จำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไปในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เฉพาะในวันทหารผ่านวันศึกเดียวเท่านั้น เราเรียกว่า “ดอกไม้ที่ระลึกวันทหารผ่านศึก”หรือบางท่านก็เรียกว่า “ดอกป๊อปปี้”เหมือนกับต่างประเทศก็มีดอกไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นจำหน่ายเป็นดอกไม้สีแดง อันหมายถึง สีเลือดของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญและด้วยการเสียสละอันสูงสุด เพื่อให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลายได้อยู่กันอย่างปกติสุขในปัจจุบัน

 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมบริจาคบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี “มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกฯ” ธนาคารกสิกรไทย สาขาสนามเป้า เลขบัญชี 029-2-71777-6

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

 

…………………………………………………………………………………….

 

นายกรัฐมนตรีเผยชะลอการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาออกไปก่อน

 

วันนี้ (30 มกราคม 2560) เวลา 13.50 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีกลุ่มชาวบ้านคัดค้าน     การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จังหวัดสงขลาว่า ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งเท่าที่ทราบเบื้องต้นอาจจะต้องชะลอโครงการออกไปก่อน โดยจะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะเดียวกันต้องแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงาน และแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่จะเข้าไปทดแทนในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมฝากไปถึงประชาชนทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยว่า ขอให้คำนึงถึงความมั่นคงด้านพลังงานด้วย ตราบใดก็ตามที่ยังมีกลุ่มคนสองฝ่ายรัฐบาลก็ทำงานลำบาก ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการจะใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นไปก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขาดแคลนพลังงานในพื้นที่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลรับฟังข้อเสนอจากทุกภาคส่วน ถึงแม้รัฐบาลจะมีอำนาจพิเศษก็ตาม

…………………………………………………..

นายกรัฐมนตรีเผยไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงการทำโพลสำรวจความคิดเห็น ระบุเป็นเพียงช่องทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

 

วันนี้ (30 มกราคม 2560) เวลา 13.50 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีโพลสำรวจความคิดเห็นว่า เป็นเพียงช่องทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงการสำรวจความคิดเห็น แต่ประเด็นของปัญหาคือจุดมุ่งหมายของโพลสำรวจความคิดเห็นเมื่ออ่านคำถามก็จะรู้ว่าทำมาเพื่ออะไร ด้วยเจตนาที่ดีหรือไม่ดี

…………………………………………

 

วันนี้ (30 มกราคม 2560) เวลา 13.50 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ครั้งที่ 4/2560 มีมติให้ยกเลิกการใช้สารเคมีพาราควอต ซึ่งถูกกำหนดเป็นวัตถุอันตราย และระหว่างนี้จะไม่อนุญาตให้มีการขึ้นทะเบียนเพิ่ม ไม่ต่ออายุทะเบียนว่า ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาหารือถึงผลกระทบเกี่ยวกับการใช้สารดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ต้องรับฟังเสียงจากภาคเกษตรกรด้วย เพราะเกษตรกรยังมีปัญหาเรื่องการกำจัดวัชพืช ซึ่งยังมีความจำเป็นต้องใช้สารดังกล่าวในการกำจัดวัชพืชอยู่ โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกษตรกรใช้สารเคมีมากเกินไป พร้อมกับสั่งการให้เร่งสร้างความเข้าใจต่อเกษตรกร และเพิ่มมาตรการการป้องกันการใช้สารพาราควอต รวมถึงหาวิธีการถ้าไม่มีการนำเข้าสารดังกล่าว จะลดการใช้สารอย่างไร

 

 

matemnews.com  30 มกราคม 2561