Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์ให้นักเรียนมัธยมเรียนควบวิชาชีพจบได้ 2 ใบ… ม.5 – ใบ ปวช.

พลเอกประยุทธ์ให้นักเรียนมัธยมเรียนควบวิชาชีพจบได้ 2 ใบ… ม.5 – ใบ ปวช.

1834
0
SHARE

 

http://thainews.prd.go.th/

นายกรัฐมนตรี หนุนห้องเรียนอาชีพ เปิดทางเลือก ม.ปลาย มีงานทำแบ่งเบาภาระครัวเรือน ประเดิมเทอมแรก 6 โรงเรียนในเขตพัฒนาพิเศษ

 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการปรับรูปแบบการศึกษาในห้องเรียนให้สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาที่เรียนจบแล้วสามารถหางานทำในพื้นที่บ้านเกิดได้ ซึ่งรัฐบาลได้จัดทำโครงการห้องเรียนอาชีพ นำรายวิชาสายอาชีวศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน มาสอนคู่ขนานกับสายสามัญในห้องเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น โรงเรียนเบตง วีระราษฎร์ประสาน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่จะพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยว โดยจับมือกับวิทยาลัยการอาชีพเบตง เปิดสาขาการโรงแรม และคหกรรมขึ้น และโรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม จังหวัดนราธิวาส ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโกลก เปิดสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และช่างเชื่อมโลหะ เพื่อรองรับการลงทุนและการก่อสร้างที่กำลังขยายตัวในพื้นที่ เป็นต้น

โดยเริ่มต้นในภาคการศึกษา 1/2560 เป็นภาคเรียนแรก ซึ่งเด็กที่จบการศึกษาจากห้องเรียนอาชีพจะได้วุฒิการศึกษา 2 ใบ คือ มัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สามารถเลือกได้ว่าจะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา หรือจะทำงาน นอกจากนี้ ยังมีการสอนพื้นฐานในการบริหารจัดการธุรกิจให้นักเรียนที่เรียนจบแล้วอาจเลือกเป็นผู้ประกอบการรายย่อยเองได้

นอกจากนี้ ยังได้เปิดห้องเรียนอาชีพ 6 โรงเรียน มีนักเรียนแล้วรวม 310 คน ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษ ได้แก่ 3 โรงเรียนในพื้นที่โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คือ โรงเรียนราชมุนีรังสฤษฎ์ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โรงเรียนเวียงสุวรรณ์วิทยาคม อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส โรงเรียนเบตง วีระราษฎร์ประสาน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอีก 3 โรงเรียน ในเขตพัฒนาพิเศษชายแดน คือ โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โรงเรียนแม่จันวิทยาคม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และโรงเรียนสรรพวิทยาคม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ถือเป็นการช่วยกันให้นักเรียน ม.ปลาย มีทางเลือกมากขึ้น สามารถหาสร้างรายได้แบ่งเบาภาระผู้ปกครองได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งกำชับกระทรวงศึกษาธิการ ประสานความร่วมมือกับภาคธุรกิจและชุมชนเพื่อวางแผนผลิตบุคลากรให้สอดรับกับความต้องการของพื้นที่ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ และต้องสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองว่าเด็กที่เรียนในสายอาชีพไม่ใช่เด็กที่เรียนไม่เก่ง แต่เป็นเด็กที่จะสามารถเริ่มทำงานสร้างรายได้ได้เร็วกว่า และในอนาคตควรขยายไปยังพื้นที่ทั่วประเทศนอกเหนือจากเขตพัฒนาพิเศษ

 

Matemnews.com  23 กรกฎาคม 2560