中山路
ค่ำคืนแห่งนครที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงมีเมืองหนานหนิงเป็นเมืองเอก นครนี้เปรียบเสมือนอีกโลกใบหนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองสีเขียวหรือ Green City มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางมาสัมผัสวิถีชีวิตทางตอนใต้ของแดนมังกรแห่งนี้นับไม่ถ้วน และที่สำคัญนอกจากการได้เที่ยวในช่วงกลางวันแล้ว ก็ไม่ควรพลาดพาไปย่ำราตรีกันที่ “ถนนจงซาน” หรือ “จงซานลู่” แหล่งอาหารยามดึกของชาวหนานหนิง สถานที่อันเลื่องชื่อ มีของที่ระลึกขาย และอาหารท้องถิ่นจำหน่ายนักท่องเที่ยวนั้นชอบมาทานอาหารในบรรยากาศที่เย็นสบาย เมนูบางอย่างก็คล้ายกับเมืองไทย มีผลไม้บางชนิดนำเข้ามาจากไทยวางขายด้วย ที่สำคัญที่นี่มีรสนิยมในการทานหอยนานาชนิดจนมีแฟรนไชส์ขายเป็นเรื่องเป็นราวด้วย
ที่อยู่ไม่ไกลถนนใหญ่ ลองใช้บริการขนส่งมวลชนของที่นี่ดูบ้าง ลักษณะรถเมล์เหมือนกับรถคันสีเมื่อสำราญกับการเที่ยวในภาคกลางวัน อาทิตย์ตกดินเลยเดินออกจากโรงแรมเหลืองๆ ของบ้านเราเข้าใจว่ามีการซื้อขายจากที่นี้ไป แต่สภาพรถใหม่เอี่ยมอ่องเพราะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี และสามารถดูรอบรถว่าจะมาถึงป้ายที่เรายืนอยู่จากแอพพลิเคชั่นที่ค่อนข้างแม่นยำ และมันก็จะบอกป้ายที่เราจะลงอย่างชัดเจน ค่ารถถ้าเป็นรถธรรมดา 1 หยวน (ประมาณ 5 บาท) ตลอดสาย หรือจะเป็นรถปรับอากาศก็แค่ 2 หยวน (ประมาณ 10 บาท) การขึ้นต้องขึ้นทางด้านหน้ารถและลงทางด้านหลัง แต่ก็จะมีพวกลักไก่แอบขึ้นด้านหลังอยู่เหมือนกัน ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินที่นี่ก็มีบริการด้วยแต่อยู่ในช่วงทดลองจึงปิดเร็วหน่อย
รถส่วนตัวที่นี่เขานิยมใช้รถจักรยานยนตร์ เสียงเวลามันวิ่งจะเงียบมากต้องระวัง ถ้าไม่ได้ยินจะโดนชนได้ ที่มันเสียงเบาเพราะว่าเขาใช้ระบบไฟฟ้าทั้งหมด สามารถชาร์จได้ตามร้านค้าข้างทางด้วยราคา 1 หยวนต่อ 10 นาที วิ่งได้ประมาณ 14 กิโลเมตร ดังนั้นจะไม่เห็นปั้มน้ำมันหรือมลพิษทางอากาศให้เห็น บางจุดก็มีรถจักรยานให้เช่ามาปั่นแต่ต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อน ถ้าเป็นรถแท็กซี่ที่นี่เป็นระบบมิเตอร์พร้อมใบเสร็จโดยจะเริ่มต้นที่ราคา 9 หยวน ภายในรถแท็กซี่ที่นี่จะมีโครงเหล็กกั้นระหว่างคนขับและผู้โดยสารเพื่อความปลอดภัย
ถึงจุดหมายเราลงจากป้ายรถเมล์ เดินลัดเลาะไปยังถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดของนครหนานหนิง “ถนนจงซาน” ถนนแห่งนี้เปิดไว้เฉพาะให้คนเดินเท่านั้น เปิดบริการทุกคืนไม่มีวันหยุด และขายอาหารมีร้านก๋วยเตี๋ยวอันเก่าแก่หรือร้านนมถั่วเหลือง ซึ่งส่วนใหญ่ของทานเล่นเป็นไม้เสียบมีเนื้อหลายอย่างย่างวางเอาไว้ บางอย่างก็ทานได้แต่บางอย่างก็ต้องเลี่ยง เพราะกลิ่นมันแรงเกินไป แต่เมื่อราดด้วย “หม่าล่า” เครื่องเทศของจีนที่มีลักษณะเหมือนพริกป่นบ้านเราก็อร่อยใช้ได้ แต่ถ้ากินเยอะๆ ลิ้นอาจชาได้ และมีหม้อไฟซีฟู๊ด รวมทั้งการรับประทานหอย ที่นี่ขึ้นชื่อว่าชื่นชอบกันเป็นชีวิตจิตใจ โดยจะนำหอยมาย่างบ้าง ลวกบ้าง หรือว่าผัด กินเป็นกับแกล้มชั้นเลิศในการเพิ่มอรรถรสของการดื่มด่ำ หลักๆ ที่คนซื้อกันมากที่สุดคือ หอยนางรมย่างและหอยเชลล์ย่าง บอกเลยว่าขายกันไม่แพงประมาณตัวละ 2 – 3 หยวน
ชื่อของ “ถนนจงซาน” มีที่มาคือเป็นชื่อของ ดร.ซันยัดซุน เมื่อ 108 ปีก่อน โดยท่านเคยเป็นผู้นำของพรรคปฏิวัติเดินทางมาก่อการประท้วงที่เมืองหนานหนิง เพื่อต่อต้านการปกครองของราชวงศ์ชิง แต่ไม่สำเร็จ เพื่อเป็นการรำลึกถึงเจตนารมณ์ทางการหนานหนิงจึงตั้งชื่อถนนว่า “ถนนจงซาน” รอบๆ ขอบถนนมีสิ่งปลูกสร้างแบบเดิมเอาไว้ เปิดขายกันตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เรื่อยมาจนฟ้าสาง ชีวิตกลางคืนวัยรุ่นสมัยใหม่บางส่วนก็จะเข้าร้านกาแฟนั่งพูดคุยและจิบชานม บางคนต้องยอมยืนต่อแถวนานเป็นชั่วโมงเพื่อจะเข้าไปใช้บริการ
อิ่มท้องแล้วขอมาเดินย่อยกันที่ “สวนสาธารณะหนานหู” เป็นสถานที่รวมตัวของผู้คนหลากหลายวัย ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านหรือผู้สูงอายุเองก็จะออกมาเพื่อมาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน อย่าง เดินเล่น วิ่ง นั่งพูดคุย เต้นรำ รำวง หรือแอโรบิก นอกจากนั้นแล้ว ยามดึกเมืองหนานหนิงยังมีสิ่งตื่นตานั่นคือ “สะพานน้ำพุสายรุ้ง” ที่มีน้ำพุติดไว้บนสะพานปล่อยม่านละอองน้ำ ออกมาพร้อมเปิดไฟสีต่างๆ ทำให้เห็นเป็นสายรุ้งพาดผ่านอยู่เบื้องหน้า เราเลยขอนั่งพักก่อนเข้าไปโรงแรมเพื่อหลับนอน เพื่อการข้ามผ่านรัตติกาลนี้ไป…
ติดตามรีวิวแหล่งท่องเที่ยวโดนๆ ได้ที่
เพจ “เที่ยวเต็มๆ” https://www.facebook.com/TeawTemTem