ยอดวงร็อคนูเมทัลแห่งยุค ‘Linkin Park’ ออกแถลงการผ่านหน้าแฟนเพจของวง หลังการสูญเสียนักร้องนำ ‘เชสเตอร์ เบนนิงตัน’ ไปอย่างไม่มีวันกลับ จากการแขวนคอตายเพราะโรคซึมเศร้า โดยในแถลงการณ์เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหัวใจแหลกสลาย
ถึง เชสเตอร์,
“หัวใจของพวกเราแตกสลาย คลื่นของความเศร้า และการไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นยังสาดซัดเข้ามาใส่ครอบครัวของพวกเรา จนต้องตั้งสติว่ามันเป็นเรื่องจริง”
“นายเข้าถึงชีวิตของผู้คนมากมายเหลือเกิน มากอย่างที่นายอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นกำลังใจ และความรักอย่างมากมาย จากทั้งผู้คน และคนใกล้ชิดทั่วโลก ทาลินดา (ภรรยาของ เชสเตอร์) และครอบครัวของเราสัมผัสได้ถึงสิ่งเหล่านั้น และเราก็อยากให้โลกได้รู้ว่านายคือ สามี, ลูกชาย และพ่อที่ดีที่สุดแล้ว ครอบครัวจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้วเมื่อไม่มีนาย”
“เวลาได้คุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในหลายปีต่อไปข้างหน้า นายมักจะตื่นเต้นจนหยุดไม่อยู่ การจากไปแบบนี้ คงจะไม่มีอะไรจะมาทดแทนเสียงเอะอะ, อารมณ์ขัน, ความทะเยอทะยาน, ความคิดสร้างสรรค์, น้ำจิตน้ำใจ และเสียงอันกว้างขวางนั้นได้อีกแล้ว เราพยายามทำใจแล้วว่าปีศาจที่มาพรากนายไปจากพวกเรา คือสิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับ ท้ายที่สุดแล้วเราต่างตกหลุมรักเสียงร่ำร้องของนายถึงปีศาจพวกนั้นมาตั้งแต่ต้น นายไม่เคยกลัวเกรงที่จะแสดงสิ่งเหล่านั้นออกมาให้ทุกคนเห็น มันชี้นำให้เราทำตามไปด้วย รวมพวกเราเข้าด้วยกัน และสอนให้เราเป็นมากกว่าแค่มนุษย์คนหนึ่ง นายมีหัวใจที่กว้างขวางกว่าใคร และสวมใส่มันไว้เสมอ”
“ความรักต่อการทำเพลง และเล่นดนตรีของเราจะไม่มีวันเหือดแห้งไป ซึ่งแม้เราเองก็ยังไม่แน่ใจว่าอนาคตต่อไปข้างหน้าจะเป็นยังไง เรารู้ดึว่าชีวิตของพวกเราทุกคนดีขึ้นเพราะนาย ขอบคุณมากๆ สำหรับสิ่งเหล่านั้น รัก และคิดถึงนายมากๆ”
จนกว่าจะได้พบกันอีกครั้ง”
LP
เชสเตอร์ เบนนิงตัน วัย 41 ปี เสียชีวิตอย่างช็อกแฟนคลับทั้งโลก เขาเป็นพ่อของลูกๆ 6 คน โดยหลัง เชสเตอร์ เสียชีวิตลง อัลบั้ม 4 ชุดของ Linkin Parkได้กลับเข้าชาร์ต Billboard 200 ทันที ประกอบไปด้วยชุด One More Light, Hybrid Theory, Meteora และ Minutes to Midnight ที่เข้ามาติดอันดับ 17, 27, 42 และ 115 ตามลำดับ