คลิกอ่าน
คำแถลงพรรคเพื่อไทย
เรื่อง 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช.นำประเทศไปสู่ความมืดมนและอันตราย
พรรคเพื่อไทย นัดหมายผู้สื่อข่าว ไปฟังแถลงข่าว 4 ปี คสช. ณ ที่ทำการพรรค เวลา 10.00น. 17 พ.ค.2561 ในโอกาสรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 จะครบ 4 ปี ในวันที่ 22 พ.ค.2561 ปรากฏว่านักข่าวไปจำนวนมาก และมีตำรวจไป 2 คน
พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล
พ.ต.ท.ศักดิเดช กัมพลานุวงศ์ รอง ผกก.สส.สน.มักกะสัน
ขอคุยกับ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค ที่ห้องสมุดทักษิณ ชินวัตร บริเวณชั้น1 ใกล้กับห้องแถลงข่าว โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำของพรรค ร่วมคุยด้วย ตำรวจแจ้งว่าการแถลงข่าวอาจจะขัดคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมือง ทำให้แกนนำประกาศลดคนแถบวข่าวจาก 7 คนลงเหลือ 3 คน นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวัฒนา เมืองสุข ตำรวจทั้ง 2 นายสังเกตการณือยู่
นายชูศักดิ์ ศิรินิล กล่าวในการแถลงข่าวว่า
“4 ปีในการบริหารประเทศของ คสช. จากวันที่ 22 พ.ค.2557 ในประกาศฉบับที่1 ของ คสช.ระบุว่า ต้องการให้เกิดความรักความสามัคคี สัญญาว่าจะใช้อำนาจเผด็จการไม่นาน ปราบปรามการทุจริต จากประกาศดังกล่าว วันนี้ครบ 4 ปี พบว่า ที่จะสร้างความปรองดอง ความสามัคคีคนในชาติ ไม่เคยเห็นความจริงใจ ความแตกแยก คสช. กลายมาเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ที่เคยบอกจะคืนประชาธิปไตยใน15 เดือน ก็มีการเลื่อนเลือกตั้งมา 4 ครั้ง บอกจะปฏิรูปโครงสร้างการเมือง แต่เรากลับได้รัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมืองที่ถอยหลัง ได้ประกาศคำสั่งจาก คสช. ที่ทำลายพรรคการเมือง การประกาศว่า จะปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่คนในสังคม ยังมีความเป็นอยู่แร้นแค้น ประชาชนลำบาก กำลังซื้อหดหาย ธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมปิดตัวเอง ถือว่าประกาศฉบับที่ 1 ที่เคยประกาศมานั้นล้มเหลว รัฐบาล และ คสช. นำประเทศไปสู่ความมืดมนและอันตราย ในการแถลงครั้งนี้เรามาเพียง 3 คน ไม่ได้มา 3 หมื่นคน เต็มสนามฟุตบอล เพื่อจะเปรียบเทียบให้เห็นว่า อย่างไหนเป็นการทำกิจกรรมทางการเมือง”
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แถลงว่า
“4 ปีของ คสช. ยังมีปัญหาการลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน พรรคการเมือง นักการเมือง โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นอย่างสุจริต ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญกลับถูกลิดรอน การแถลงข่าวไม่ได้ทำเกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองหรือต่อใคร คณะรัฐมนตรีเคยประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ แต่ คสช.กลับส่งเจ้าหน้าที่มาบอกว่า การแถลงอาจเข้าข่ายขัดต่อประกาศ คสช. ถือว่า เป็นการประจานไปทั่วโลก คสช. ไม่ได้เคารพสิทธิเสรีภาพประชาชน ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ถึงความล้มเหลวในการปกป้องสิทธิมนุษยชน มีความขัดแย้งจากกลุ่มสีเสื้อ มาเป็นความขัดแย้งระหว่าง คสช กับ ประชาชน รวมทั้งสร้างระบบ เอื้อต่อการปกป้องประโยชน์หมู่คณะของ คสช. เพื่อให้อยู่อีกยาวนาน พร้อมเล่นงานฝ่ายตรงข้าม แต่ปกป้องการทำหน้าที่ไม่สุจริตของ คสช. รวมทั้งยังล้มเหลว ทำให้บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ทำลายระบบพรรคการเมือง ใช้วิธีการเพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไปหลังการเลือกตั้ง ภายใต้ระบบไม่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนกำหนดอะไรไม่ได้ คสช. กำหนดทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูป เมื่อประชาชนไม่มีสิทธิมีเสียง ทำให้ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุล 4 ปี เห็นความพยายามการสร้างระบบการปกครอง มีเงื่อนไขต่อการฉ้อฉล มีรัฐบาลบริหารประเทศโดยไม่มีการตรวจสบถ่วงดุล ทั้งองค์กรอิสระและฝ่ายนิติบัญญัติ”
นายวัฒนา เมืองสุข แถลงว่า
“ย้อนไปดูประกาศ คสช.1/2557 ที่อ้างความจำเป็นในการยึดอำนาจ ด้วยเหตุผลจะทำให้บ้านเมืองสงบสุข ให้คนไทยรักสามัคคี ปฏิรูป และสร้างความชอบธรรมให้ทุกฝ่าย โดยความจำเป็นของคสช.ต้องทำเท่าที่ขออำนาจประชาชนไว้ การอ้างว่า จะทำให้บ้านเมืองสงบ เป็นความสงบแบบใช้อำนาจปืนบังคับ ไม่สงบจริง ประชาชนยังไม่มีสิทธิแสดงความเห็น ถูกปิดกั้น รัฐบาล คสช. ควรถูกตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ได้ เป็นอำนาจของประชาชนที่มีสิทธิจะรับรู้ ในส่วนของการที่จะสร้างความสามัคคีปรองดอง แต่กลับสร้างความขัดแย้งเพิ่ม แต่เห็นว่า มีการโกงอำนาจประชาชน ไม่ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม โกงในสิ่งที่ตัวเองเขียน ไม่เคารพสิ่งที่ตัวเองเขียน ใช้งบประมาณสูง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มีการขาดดุลงบประมาณสูงเท่าที่ประเทศไทยเคยมี และมีพฤติกรรมในการสืบทอดอำนาจ ตัดการตรวจสอบจากประชาชนแการกำหนดให้นายทหารยศ พลตรีเทียบเท่ากับตำแหน่งอธิบดี จากนี้บุคคลเหล่านี้คงจะไปนั่งมีตำแหน่งต่างๆในองค์กรอิสระ เพราะตามเงื่อนไขระบุว่า บุคคลที่จะไปมีตำแหน่งในองค์กรอิสระได้ต้องเคยเป็นระดับอธิบดีมาเกินกว่า 5 ปี แล้วต่อไปบุคคลเหล่านี้คงจะไปมีตำแหน่ง อย่างนี้ถือว่า เป็นการสืบทอดอำนาจ และเป็นการตัดการตรวจอบหรือไม่ รัฐบาลไม่ว่า จะได้อำนาจโดยวิธีการใด ต้องถูกตรวจสอบได้เสมอ ไม่ว่า จะเป็นรัฐบาลจากรัฎฐธิปัตย์ หากใช้อำนาจเกินเลยจากประชาชน หมดจากอำนาจแล้วขึ้นศาลได้ ติดคุกได้เสมอ”
นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การแถลงข่าวในครั้งต่อไปของพรรคเพื่อไทย อาจเป็นลักษณะเช่นนี้ คือ จะไม่ให้ผู้มีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคมาเป็นผู้แถลง เอาเซฟๆหรือขอป้องกันไว้ก่อน กลัวเขาจะนำไปโยงไปสู่การยุบพรรค
หลังพรรคเพื่อไทย จบการแถลงข่าวไม่นาน พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไปที่กองบังคับการปราบปราม ถยยพหลโยธิน พ.อ.บุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ว่า เท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มีการกระทำความผิด คือ 1.ตามประกาศ คสช. เรื่องห้ามพรรคการเมือง ดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางการเมือง เพราะพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคเก่าที่ไม่ได้จดทะเบียนใหม่ จึงไม่ได้รับอนุญาตในขั้นตอนนี้ และการดำเนินการนอกเหนือจากประกาศคำสั่งดังกล่าว ถือเป็นการชุมนุมทางการเมืองอันเป็นความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ประกอบกับการชุมนุมดังกล่าว มีการนำเผยแพร่ในเว็บไซต์ของพรรคด้วย จึงเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวได้แจ้งข้อมูล และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าไปเก็บข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งได้มีการพูดคุยขอความร่วมมือแล้ว แต่ขณะนี้การพิจารณาดำเนินคดีนั้น คงต้องรอการดำเนินการของคณะทำงานเสียก่อนว่า จะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง แต่มีการพิจารณาดำเนินคดีอย่างแน่นอน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ว่า หากมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ พนักงานสอบสวนก็จะรับเรื่อง และสอบสวน หากพบว่ามีมูลความผิดก็จะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป โดยเป็นไปตามพยานหลักฐานต่างๆ
matemnews.com
17 พฤษภาคม 2561