สัมผัสกลิ่นอายท้องทะเลสีครามในอ่าวทุ่งมหา ด้วยการ “กินปูห้อยขา ราชาชุมพร” บ้านเกาะเตียบ ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ชมธรรมชาติพร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจ และแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็สุขหรรษาได้ครบทุกอย่างที่ต้องการแล้ว
เราเริ่มต้นจาก “บ้านเกาะเตียบ” เป็นที่นัดหมายและจุดขึ้นเรือราวๆ เก้าโมงเช้า หากมองไปหันหน้าเข้าทะเล จะเจอหาดทรายทอดยาวและสันเขาน้อยๆ รายล้อม และเมื่อมองไปทางด้านขวามือ มองเห็นพระพุทธรูปของ วัดแก้วประเสริฐ ที่ตั้งอยู่เนินเขา ชาวบ้านเรียกว่า เจ้าแม่กวนอิม ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างทั้งแบบไทยและจีน นอกจากนั้นบรรยากาศโดยรอบของชุมชนบ้านเกาะเตียบ เราได้เห็นหมู่บ้านชาวเลที่ดำรงชีวิตด้วยการทำอาชีพประมง มีเรือประมงของชาวบ้านจอดเทียบอยู่ริมฝั่งเป็นจำนวนมาก
เราเดินเท้าลงทะเลเพื่อไปขึ้นเรือ แต่ก่อนจะทำสิ่งอื่นใดก็ต้องสวมเสื้อชูชีพไว้เสมอ เสียงเครื่องยนต์เรือดังขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มต้นให้เราเสพธรรมชาติบนท้องทะเลกันแล้ว ระหว่างทางมีผลไม้ มีขนมให้ทานตลอดการเดินทาง เรามุ่งหน้าสู่ เกาะรังนก เป็นเกาะอยู่กลางทะเล ที่มีการสัมปทานรังนกบนเกาะ เชื่อได้เลยว่ามีรังนกให้เก็บเพียบเพราะนกบินไปมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันตัว
ต่อมาเป็น เกาะสิกง เป็นเกาะที่มีชื่อเสียง เป็นแหล่งศูนย์รวมปลาน้อยใหญ่หลากหลายชนิด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ในกลุ่มของนักตกปลา ถนัดมา เกาะเวียง เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดใน อ.ปะทิว ซึ่งมีลักษณะเป็นแนวยาวขนาดกับชายฝั่ง และเรือก็แล่นผ่าน เกาะพระ หรือในอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าสำนักกัมมัฎฐานปริสุทโธ ซึ่งมีพระสงฆ์อาศัยอยู่บนเกาะ
สำคัญที่สุดห้ามพลาดเลยคือ เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ จุดดำน้ำที่จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ซึ่งเกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่นี้เป็นตัวแทนความงดงามใต้ท้องทะเลชุมพร เกาะเล็กๆ ที่ไม่มีผู้คนอาศัย มีแต่เพียงนกนางแอ่นและนกนางนวลอาศัยอยู่เท่านั้น และเป็นจุดหมายของดำน้ำ เพราะอุดมไปด้วยปะการังและดอกไม้ทะเลหลากหลายสี ทั้งสองเกาะมีแนวดอกไม้ทะเลที่อยู่แน่นเป็นแพเปรียบเสมือนทุ่งดอกไม้ทะเลขนาดใหญ่ ปะการังสีเหลืองอ่อน ปะการังสีขาวและปะการังสีทอง ปะการังครก ปะการังถ้วยส้ม อีกทั้งยังมีปลาหลากชนิดทั้งฝูงเล็กฝูงใหญ่เช่น ปลากล้วยแถบเหลือง ปลาข้างเหลือง ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาการ์ตูน ถ้าโชคดีหน่อยก็จะพบกับ ฉลามวาฬ และกระเบนราหู
เมื่อท้องเริ่มร้องว่าต้องทานข้าวเที่ยงแล้วเรามาปิดท้ายการเที่ยวเกาะต่างๆ กันที่ เกาะยอ เป็นเกาะขนาดเล็ก ไม่ไกลจากชายฝั่งนัก ซึ่งบนเกาะจะมี “ธนาคารปู” กระชังปลา ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยว แหล่งเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำนำไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.ชุมพร และเป็นมรดกล้ำค่าของ นายจาง ฟุ้งเฟื่อง หรือ “ลุงจาง” ปราชญ์ชาวบ้าน หรือ เฒ่าทะเลแห่งอ่าวทุ่งมหา ที่เป็นผู้ริเริ่ม วิธีการโดยให้ชาวประมงนำแม่ปูไข่นอกกระดองมาเลี้ยงในกระชัง แล้วให้แม่ปูวางไข่ขยายพันธุ์ คล้ายกับการฝากเงินในธนาคาร ส่วนดอกเบี้ย คือ ลูกปูที่ชาวประมงจับมาขายเป็นรายได้ เจ้จิ๋ม หรือ คุณอุราพร หลิมทอง รองประธานสภา อบต.ปากคลอง อ.ปะทิว เล่าว่าหลังจากลุงจางเสียชีวิตเมื่อปี 2538 ชาวบ้านจึงคิดว่าไม่อยากให้ของดีแบบนี้ต้องสูญหายไป จึงร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และ อบต.เข้าไปสานต่อ โดยมีภาคเอกชนร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ตอนที่เราไปสถานที่บนเกาะยอ ยังปิดปรับปรุงเลยไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมและนั่งทานข้าวบนนั้นได้ แต่ทางคณะได้ทำแพให้เรานั่งทานกันกลางทะเลมีเมนูอาหารมาวางตรงหน้ามากมายไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดปู ปูม้านึ่ง ส้มตำปูม้า ปลาสามรส ผลไม้ น้ำหวาน ถ้าใครอยากทานอาหารเพิ่มเติมสามารถสั่งล่วงหน้า บางคนอยากทานปูในจำนวนมากๆ ก็สั่งกันไว้เป็นกิโลๆ ก็มี ทริปเที่ยวนี้ราคาเบาๆ เริ่มต้นตั้งแต่ 700 บาท ไปจนถึง 1000 บาท แล้วแต่โปรแกรมจะมากจะน้อย ติดต่อได้ เจ้จิ๋ม โทร. 0611914314
เที่ยวชุมพรเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องนั่งเรือไกลๆนานเป็นชั่วโมง แต่ละเกาะอยู่ห่างกันไม่มาก จบจากการลัดเลาะเกาะก็มาอิ่มท้อง นั่งห้อยขากินปู ชมวิวทะเลสวยๆ
