“เรื่องการหารือเดี๋ยวก็หารือกัน ใครทำก็ได้ ผมทำก็ได้ หรือจะรองนายกฯ ทำก็ได้ ถือเป็นเรื่องของขั้นตอน ก็ขอรับฟังก่อนได้หรือไม่ แล้วค่อยนำเรื่องมาให้ผม และ คสช.ได้ตัดสินใจพิจารณาในเรื่องของการปลดล็อก และวิธีการต่างๆ ก็จะทำให้ทุกอย่าง ขอร้องว่าอย่ากดดันกันมากๆ เลย ขอตอบแค่นี้พอ เดี๋ยวจะต้องไปทำงานต่อ ก็ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพและปลอดภัย
“เป็นการประสานหารือกันโดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ที่ผ่านมาเขาไม่ให้ไป ก็ไปไม่ได้ ในเมื่อเขาเชิญมาให้ผมไปผมก็ไป เพื่อให้เป็นไปตามมติ ข้อผ่อนปรนของสภายุโรปที่ขอให้มีการพบปะหารือพูดคุยกันได้ ส่วนข้อห้ามทางการเมืองเขาก็มีอยู่ เราก็เคารพกฎหมายของเขา แต่ในเมื่อเขาเชิญมาเขายินดีที่จะหารือ ก็ไปพบปะหารือเยี่ยมเยียนกัน อย่างน้อยได้มีการพูดคุยกัน ผมก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องที่เราต้องมานั่งกังวล ถ้าเขาไม่ให้ไปเลยค่อยมาคิดกันว่าจะยังไง ตอนนี้เขาให้ไป เพราะฉะนั้นเราก็อย่ามาจำกัด ถ้าไปแล้วจะต้องอย่างโน้นอย่างนี้ ไปดูเขาว่าคุยเรื่องอะไร เราก็ไปคุยกับเขา อะไรที่ทำได้เราก็ทำ แต่อย่ากังวล ว่าจะไปซื้ออะไรโน่นนี่ นอกกรอบนอกวิธีการ มันทำไม่ได้หรอก เพราะการซื้อ คือ การใช้จ่ายงบประมาณ มันต้องมีแผนงานโครงการ จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178 วรรค 2 จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จากนั้นจะต้องนำเข้าที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ดังนั้น การจะซื้ออะไรหรือจะลงนามอะไรก็แล้วแต่ จะต้องขอมติ ครม.และ สนช.มันถึงจะทำได้ ไม่ใช่บอกว่าไปซื้อนู่นซื้อนี่ ที่ซื้อมาก็ไม่ใช่มองเป็นทุจริต หากมันมีคงไปไม่ถึงขั้นตอนการซื้อ ต้องดูตรงนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นประเทศชาติก็ไปไม่ได้”
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าในการแถลงข่าวหลังเสร็จประชุมครม. 12 มิ.ย.2561 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ประเด็นการเดินทางเยือนประเทศฝรั่งเศส และอังกฤษ ระหว่างวันที่ 20 – 25 มิ.ย.2561
matemnews.com
12 มิถุนายน 2561