Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์ไปร่วมงานทำความสะอาดเมืองสกลนครหลังน้ำลด

พลเอกประยุทธ์ไปร่วมงานทำความสะอาดเมืองสกลนครหลังน้ำลด

755
0
SHARE

 

http://www.thaigov.go.th

วันนี้ (2 สิงหาคม 2560) เวลา 09.00 น. ณ บริเวณค่ายกฤษณ์สีวะรา ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบด้วย พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดสกลนครเพื่อพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ รวมทั้งรับฟังปัญหาสถาน การณ์น้ำท่วม และการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่

โอกาสนี้ นายวิทยา จันทร์ฉลอง  ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร  กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ว่า  จากผลกระทบพายุโซนร้อน “เซนิกา” ทำให้ฝนตกหนักมาก และตกต่อเนื่องเป็นเวลา 17 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำไหลหลากจากเทือกเขาภูพาน เข้าท่วมพื้นที่สร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่ 18 อำเภอ รวม 58,804 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 ราย และสูญหายจำนวน 1 ราย พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 583,908 ไร่ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้ทรงห่วงใยพสกนิกรผู้ประสบภัย ได้พระราชทานความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย พระราชทานถุงยังชีพ พระราชทานครัวพระราชทานประกอบอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัย เป็นต้นสำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้น ทางจังหวัดได้เร่งช่วยเหลือและอพยพประชาชนที่ตกค้างไปอยู่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย จำนวน 4 จุด รวมทำออกหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่และทำโรงพยาบาลสนามบริเวณศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยเพื่อดูแลและให้บริการประชาชน พร้อมทั้งระดมเครื่องจักรในการกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือในการคมนาคมของประชาชนให้เกิดความสะดวกมากขึ้น รวมถึงจัดรถครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายให้ประชาชนอย่างทั่วถึง

ด้านอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวรายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำและการระบายน้ำในพื้นที่ว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากหนองหาร – ลำน้ำก่ำลงแม่น้ำโขง ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตามจุดต่าง ๆ ตลอดลำน้ำก่ำ จำนวน 26 เครื่อง โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลบ.ม/วินาที จำนวน 4 เครื่อง ที่ประตูระบายน้ำสุรัสวดี สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากวันละ 27 ล้าน ลบ.ม เป็นวันละ 34 ล้าน ลบ.ม และที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต สามารถเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 28 ล้าน ลบ.ม เป็นวันละ 52 ล้าน ลบ.ม  ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสกลนครภายในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ ส่วนพื้นที่การเกษตรบริเวณรอบหนองหารจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 5 – 7 วัน

ภายหลังรับฟังการบรรยายสรุป  นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ   บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยประชาชนและติดตามสถานการณ์น้ำทางสื่อโดยตลอด อีกทั้งให้น้อมนำกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ขอให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว ทำให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างยั่งยืน โดยการหาแหล่งกักเก็บน้ำ ปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่เหมาะสม ขุดลอกทางระบายน้ำและน้อมนำแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ ซึ่งรัฐบาลพร้อมน้อมนำกระแสรับสั่งมาปฏิบัติ

นายกรัฐมนตรียังสั่งการขอให้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนโดยเร็ว ด้วยการเร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายให้ชัดเจน โดยนำเอาประชาคมมามีส่วนร่วมเพื่อป้องกันปัญหาการใช้งบประมาณและการร้องเรียน ขณะเดียวกันขอให้สำรวจอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ทั่วประเทศ ต้องบูรณะซ่อมแซมพร้อมใช้งาน และขุดลอกไม่ให้ตื้นเขิน ซึ่งรัฐบาลก็จะอนุมัติงบประมาณลงไปให้ดำเนินการ เพื่อให้แหล่งเก็บน้ำเหล่านี้สามารถใช้แก้ปัญหาน้ำแล้งในช่วงหน้าแล้งด้วย โดยให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปช่วยดูแล และจะให้ทหารไปช่วยลงมือทำเพื่อให้เร็วขึ้น

สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ให้เร่งดำเนินการทำสันเขื่อนใหม่เสริมจากเดิม และขอให้ปรับปรุงเพิ่มความจุน้ำให้มากขึ้น อีกทั้งยังเน้นย้ำในเรื่องของการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ในเรื่องของการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาจากประชาชน ซึ่งหากไม่ดำเนินการก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ดังนั้นต่อไปนี้ต้องร่วมมือกันอย่าสร้างความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และขอให้หยุดเรื่องของการเมืองไว้ก่อน เพราะส่วนตัวไม่ได้มาจากการเมือง และพร้อมที่จะทำงานในทุกพื้นที่ให้กับทุกคน ไม่มีการแบ่งแยก

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางต่อไปยังศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เพื่อพบปะให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย

 

เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมครัวพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร และพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสกลนคร

 

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย นายกรัฐมนตรีได้พบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยที่พักพิงอยู่ตรงศูนย์นี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพ พร้อมกล่าวทักทายกับให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยอย่างเป็นกันเอง

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบปะให้กำลังใจผู้ป่วย ณ บริเวณโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย จากเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี กรณีผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว จำนวน 8 ราย รายละ 50,000 บาท  และผู้เสียชีวิตไม่ใช่หัวหน้าครอบครัว จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 25,000 บาท ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมจุดคัดกรองผู้ป่วย พร้อมทักทายให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ก่อนจะไปเยี่ยมชมครัวพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ และจิตอาสาทุกคนที่ช่วยกันดูแลช่วยเหลือประชาชน พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้กำลังใจขอให้ต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัย และขอให้ระมัดระวังเพราะภัยธรรมชาติเป็นภัยที่ร้ายแรง และต้องเรียนรู้อยู่กับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติให้ได้ พร้อมขอให้ฟังคำเตือนจากหน่วยงานของรัฐบาล อย่าเชื่อมั่นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เพราะทุกวันนี้โลกมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลเรื่องเชื้อเพลิง และพื้นที่ทำครัวให้กับประชาชนอย่างพอเพียง และแก้ไขปัญหาเชิงปฏิบัติการด้านอื่น ๆ ให้ได้  เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับประชาชน

เวลา 11.00 น. ณ บริเวณเขตเทศบาลนครสกลนคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ร่วมงานโครงการ Big Cleaning Day “ย้อมบ้าน ล้างเมือง” เพื่อทำความสะอาดสถานที่สาธารณะภายหลังน้ำลด โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ฉีดน้ำ และกวาดทำความสะอาดถนน บริเวณหน้าวัดพระธาตุเชิงชุม ก่อนจะไปลงเรือเพื่อเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่เขตเทศบาลนครสกลนคร

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวระหว่างร่วมทำกิจกรรมตอนหนึ่งว่า ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของประชาชนหลังจากที่ทุกคนได้ผ่านเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันในการแก้ไขปัญหาทุก ๆเรื่องแล้วทุกอย่างก็จะประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ ตลอดสามปีที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะแก้ไขก็คือ ทำให้ทุกคนได้มีความรักความสามัคคี ไม่เกิดความขัดแย้ง จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่าเราจะต้องไม่เพิ่มความขัดแย้ง รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในความขัดแย้งของใคร เข้ามาเพื่อทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

 

Matemnews.com  2 สิงหาคม 2560