นักข่าวสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร สงษ์สุวรรณ รองนายกฯควบกลาโหม ขณะจะเดินขึ้นตึกบัญชากราร 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมครม.เช้า 17 ก.ค.2561 ประเด็นพลทหารเลี้ยงไก่ ที่สังคมกำลังมีกระแวให้ยกเลิกการนำตัวพลทหารเกณฑ์ไปเป็นทหารรับใช้ที่บ้าน พล.อ.ประวิตรตอบว่า
“ก็ยกเลิกอยู่แล้ว ไม่มีอยู่แล้ว ระเบียบมีชัดเจนอยู่แล้ว คงไม่ต้องออกระเบียบมาใหม่ ขณะนี้กำลังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนอยู่ กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการขอตัว และคนที่ไปอยู่กับผู้บังคับบัญชาก็มีความสมัครใจกันทั้งนั้น ถ้าไม่สมัครใจก็ไปไม่ได้”
นักข่าวถามย้ำว่า ท่านยืนยันได้หรือไม่ว่าทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องการให้พลทหารไปรับใช้ แต่เป็นขอตัวมาช่วยงาน พล.อ.ประวิตร ตอบว่า
“ไม่ทราบว่าเขาดำเนินการอย่างไร ต้องไปถามเขาดู”
นักข่าวถามต่อ จะมีการตรวจสอบกรณีนี้กับค่ายทหารอื่นๆด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า
“ไม่ต้อง แต่ถ้ามีเกิดขึ้นก็ต้องมีการตรวจสอบ”
เฟชบุ้ค ศรีสุวรรณ จรรยา
ตรรกะวิบัติเยี่ยงนี้….ผมรับไม่ได้ครับ คุณคิดว่าคนไทยเขากินแกลบกินหญ้าหรืออย่างไร ท่านพูดอะไรแล้วคนเขาจะเชื่อไปทุกคำพูด…ผมไม่ใช่พลทหารที่จะมาสั่งซ้ายหันขวาหันได้นะ…หน้าที่ผมคือ ตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แล้วสอยพวกท่านให้ล่วงลงมาให้จงได้เท่านั้นครับ
ศรีสุวรรณ จรรยา
ศรีสุวรรณร้องกรรมการสิทธิฯลกรณีพลทหารเลี้ยงไก่หวังเสนอแนะ ครม.และกลาโหมห้ามมีทหารรับใช้
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์ รธน. เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏในสื่อและโซเชียลมีเดียว่า มีพลทหารประจำการจากกองพันทหารราบที่ 2 ศูนย์การทหาร ค่ายธนะรัชต์ อัดคลิปความยาว 11 นาที เปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่ หลังสมัครมาเป็นทหารเกณฑ์หวังรับใช้ชาติ แต่ถูกผู้บังคับบัญชาส่งมาให้เลี้ยงไก่นับร้อย และใช้ชีวิตอยู่กับไก่ โดยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ผิดสุขลักษณะ ที่หลับนอนและอาหารการกินสกปรก ไม่มีห้องน้ำห้องส้วมใด ๆ และเป็นที่ระบายอารมณ์ของผู้บังคับบัญชา ถูกตบหน้า ด่าทอถึงพ่อ-แม่ผู้บุพการีของพลทหารดังกล่าวสารพัด หากดูแลไก่ไม่ดี ซึ่งเมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป โฆษก ทบ.กลับออกมาแก้ต่างให้อย่างน้ำขุ่น ๆ ว่าเป็นแค่การไหว้วานและเป็นเรื่องของน้ำใจและความสมัครใจ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างแพร่หลาย แต่ต่อมาได้ออกมาแถลงพลิกลิ้นว่า กรณีดังกล่าวได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายทหารซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ของพลทหารคนดังกล่าวแล้ว ส่วนพลทหารที่เลี้ยงไก่ปัจจุบันได้ให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่กองร้อยโดยไม่มีการลงโทษแต่อย่างใดนั้น
การกระทำดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไม่เชื่อว่าจะได้มีการลงโทษนายทหารดังกล่าว เหมาะสมตามความผิดจริง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 ประกอบมาตรา 15 แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.2521 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม พ.ศ.2551 เพราะการพลิกลิ้นของโฆษก ทบ. เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า อาจมีการให้ความช่วยเหลือนายทหารคนดังกล่าว และเมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่องดังกล่าวก็จะเงียบหายไปเอง และไม่สามารถนำไปสู่การปฏิรูปกองทัพได้ โดยเฉพาะอาจยังคงมีการนำทหารเกณฑ์ไปรับใช้นายทหารระดับสูงในบ้านพักส่วนตัวต่อไปได้อีก
ดังนั้นสมาคมฯ จึงจำต้องนำความมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษบชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เป็นองค์กรอิสระเพื่อดำเนินการตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงและเสนอแนะมาตรการป้องกันไม่ให้มีทหารรับใช้ผู้บังคับบัญชาหรือเป็นคนรับใช้ครอบครัวนายทหารอีกต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
matemnews.com
17 กรกฎาคม 2561