ที่ท้องสนามหลวง เมื่อบ่ายวันที่ 22 ก.ค.2561 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อม การจัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือเยาวชน และผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน
นายสุวพันธ์ เผยแก่นักข่าวก่อนเริ่มประชุม ว่า สาระสำคัญเป็นการประชุมหารือรายละเอียดของการดำเนินการจัดงาน “รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน United As One” เพื่อขอบคุณผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าไปแก้ไขปัญหาที่ถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย โดยรัฐบาลมีความประสงค์ที่จะเรียนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ได้ไปปฏิบัติงานทั้งในส่วนของภาครัฐ และภาคเอกชน จึงจะต้องดูในรายละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจน หลังจากที่มีการพิจารณาหารือในรอบแรกกันไปแล้ว
จะมีการแบ่งงานเพื่อจัดงานครั้งนี้ ทางรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทุกกระทรวงเข้ามามีส่วนร่วม แต่กระทรวงหลักๆ คือ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ อสมท.และอีกหลายส่วนราชการ
ในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกับส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานงานกับภาคเอกชน ในวันนี้ต้องมีข้อสรุปว่า กระทรวงไหนจะทำอะไรอย่างชัดเจน โดยเราต้องเร่งดำเนินการ เพราะมีกำหนดไว้แล้วว่า งานจะจัดขึ้นในวันที่ 1 ส.ค.2561
การเชิญแขกต่างชาติ ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มเชิญใคร แต่ในส่วนที่ดำเนินการแล้ว คือ การรวบรวมรายชื่อทั้งหมด ในส่วนของแขกต่างประเทศทางกระทรวงการต่างประเทศจะเชิญสถานทูตที่มีคนของเขาที่มาช่วยเรา รวมถึงเชิญเอกอัครราชทูต สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายต่างๆ ด้วย
ภาคประชาชน และภาคเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ เราก็ต้องเชิญเช่นเดียวกัน เพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว จากการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงมหาดไทย
ประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนก็ให้ทางจังหวัดเป็นผู้ช่วยเชิญกลุ่มคนเหล่านั้นมาร่วมงาน
การเชิญผู้มาร่วมงานในครั้งนี้ จะให้เกียรติกับพี่น้องเกษตรกรที่เสียสละพื้นที่รองรับน้ำ ประชาชนที่ขับรถยนต์ รถรับจ้างรถสองแถว และรถจักรยานยนต์ มีจิตอาสารับ – ส่งผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่ถ้ำหลวงฯ
รวมถึงผู้ที่บริการซักเสื้อผ้าให้กับผู้ปฏิบัติงานด้วย เราจะค้นหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด
อีกทั้งผู้สำรวจเดินหาโพรงถ้ำที่ไม่ได้เป็นข่าวหรือเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะเราก็จะเชิญมาด้วย
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระราชานุญาตให้ใช้สถานที่ลานพระราชวังดุสิตเป็นสถานที่จัดงาน และทรงพระราชทานอาหารจัดเลี้ยง
ในส่วนของรัฐบาลก็จะจัดอาหารเพิ่มเติม และช่วยดูแลเรื่องของการคมนาคมขนส่งกับผู้ที่มาร่วมงานรวมถึงที่พัก เช่น ส่วนราชการบางส่วนที่มีที่พักเป็นของตนเอง อาทิ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ได้จัดอาคารใหม่ที่พุทธมณฑล ซึ่งสามารถรองรับคนกว่า 1,000 คน โดยทางคณะสงฆ์ นอกจากจะให้ที่พักแล้ว ยังจัดอาหารเลี้ยง ดูแลประชาชนที่มาร่วมงานเลี้ยงด้วย
matemnews.com
22 กรกฎาคม 2561