Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ให้คืนเงินปูยิ่งลักษณ์ 35,717 ล้านบาท

ให้คืนเงินปูยิ่งลักษณ์ 35,717 ล้านบาท

690
0
SHARE

 

 

 

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนเช้าวันที่ 22 ส.ค.2561  ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เรื่อง ขอให้ตรวจสอบว่าพิจารณาสั่งการให้ยกเลิกคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 และคืนทรัพย์สินให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ

 

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา อธิบดีกรมบัญชีกลางชี้แจงไว้ตอนหนึ่ง ว่า โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่ใช้เงินของ ธ.ก.ส.ดำเนินการไปก่อน แล้วรัฐบาลจึงตั้งงบประมาณชดใช้คืนเป็นรายปีจนกว่าจะครบวงเงิน ดังนั้น ธ.ก.ส.จึงเป็นผู้ทำบัญชีโครงการนี้เพื่อแสดงต่อรัฐบาลประกอบการขอตั้งงบประมาณ ธ.ก.ส.จึงไม่ต้องส่งข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง เนื่องจากเป็นรายการที่ไม่ต้องนำมาทำบัญชีในชุดรัฐบาล

 

และจากหลักการจัดทำบัญชีและรายงานการเงินแผ่นดินตามเกณฑ์คงค้างแบบผสม (Modified Accrual Basis) ดังกล่าว จึงไม่มีหรือไม่สามารถมีรายการผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 536,908.30 ล้านบาท ที่ดำเนินการโดย ธ.ก.ส.เป็นรายการบัญชีค่าใช้จ่ายแยกต่างหากในรายงานการเงินแผ่นดินที่กรมบัญชีกลางจัดทำสำหรับปีสิ้นสุด 30 ก.ย.58 และ 57 ได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการบัญชีที่ได้เสนอ ครม.รับทราบ

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.59 กระทรวงการคลังได้เคยมีหนังสือที่ กค 0201/ล 2560 แจ้งคำสั่งเรียกชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีโครงการรับจำนำข้าว ระบุ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯ และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ได้ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการตามอำนาจหน้าที่ เป็นเหตุให้กระทรวงการคลังได้รับความเสียหาย คิดเป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท

 

จากคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 กับคำอธิบายของอธิบดีกรมบัญชีกลาง เรื่องการทำบัญชีจึงไม่สอดคล้องกัน เพราะถ้างบการเงินแผ่นดินไม่มีการจัดทำ แล้วกระทรวงการคลังเอาตัวเลขใดมาใช้ในการคิดค่าเสียหาย ตัวเลขที่ใช้คิดค่าเสียหายดังกล่าว ลงบัญชีไว้ที่ใด และ สตง.เคยตรวจสอบรับรองหรือไม่ หลังจากดำเนินการเรียกชดใช้ค่าเสียหายแล้ว กระทรวงการคลังให้หน่วยงานใดปิดบัญชีการระบายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 และปีการผลิต 2556/57 เพื่อพิจารณาว่าจะต้องมีการคืนเงินหรือทรัพย์สินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามสัดส่วนที่ได้ชำระไว้ต่อไป เป็นจำนวนเท่าใด

 

การกล่าวอ้างตัวเลขผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวและนำมาคิดค่าเสียหาย น่าจะเลื่อนลอยไร้พยานเอกสารหลักฐาน เพราะไม่ปรากฏตัวเลขความเสียหายที่อ้างถึง ทั้งตัวเลข 286,639,648,201.45 บาท หรือตัวเลข 178,586,365,141.17 บาท ในงบการเงินแผ่นดิน แต่อย่างใด

 

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลทำกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเป็นไปโดยปราศจากหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานการบัญชี และมีผลทำให้ในปัจจุบัน ตัวเลขที่นำมากล่าวอ้างเป็นความเสียหายแล้วออกคำสั่งเรียกให้ชดใช้ค่าสินไหม จำนวน 35,717,273,028.23 บาท เหล่านี้จะยิ่งคงค้างและติดพันต่อไปจนมิอาจแก้ไขได้ และเป็นความเสียหายที่น่าจะขัดแย้งกับคำพิพากษาดังกล่าวด้วย

 

ดังนั้น จึงขอให้ตรวจสอบว่านายกฯ ควรพิจารณาสั่งการให้ยกเลิกคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 และคืนทรัพย์สินให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อไปโดยเร็วหรือไม่

 

ผู้สื่อข่าวได้ถาม ว่า ตัวบัญชีจำนำข้าวแม้จะไม่ได้อยู่ในงบแผ่นดิน แต่เป็นการบริหารจัดการงบที่อยู่ใน ธ.ก.ส.เอง เหมือนว่าเงินที่ขาดทุน แม้จะไม่เห็นในงบแผ่นดินแต่ก็ไปอยู่ใน ธ.ก.ส.นั้น นายเรืองไกร ตอบว่า

 

 

ไม่เคยมีขาดทุน ธ.ก.ส.เอาเฉพาะงบสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีงบ 2 ก้อน อันหนึ่งกู้โดยกระทรวงการคลัง อีกส่วนหนึ่งใช้เงิน ธ.ก.ส.เอง เขียนอธิบายอยู่ในหมายเหตุงบ ธ.ก.ส.ส่วนที่กู้มา 4 แสนกว่าล้านบาทนั้น รัฐบาลก็มานั่งทำรายจ่ายประจำปี ว่าต้องดำเนินการอย่างไร เช่นเดียวกับ ธ.ก.ส. กรมบัญชีกลางก็อธิบายตัวเลขนี้ไว้ ซึ่งทุกปีจะต้องจัดสรรงบบางส่วนไปคืนหนี้เงินกู้ ตนถามว่า ยอดที่ผ่อนนี้ยอดต้นอยู่ไหน ทั้งนี้ ตนคิดว่าคำสั่งของกระทรวงหารคลังวันนี้เมื่อเทียบกับคำพิพากษาแล้วไม่ถูกต้อง

 

 

 matemnews.com 

22 สิงหาคม 2561