พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ไปประกอบพิธีอำลาทหารที่หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ ทุ่งสีกัน ดอนเมือง เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2561 ตอนหนึ่งกล่าวแก่เหล่าทหารว่า
“ในฐานะที่ นปอ. มีอีกบทบาทคือการเป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลพื้นที่กทม. ในเดือนกันยายนนี้ คสช.จะมีการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ตามที่รัฐบาลได้กำหนดโรดแม็พขึ้นในการเลือกตั้ง ช่วงต้นปี2562 จะมีการคลายล็อกคำสั่งคสช. จะมีหลายส่วน หลายขั้ว และหลายพรรค เคลื่อนไหวทางการเมือง ในฐานะกกล.รส.จึงขอให้เตรียมการให้พร้อมตลอดเวลา นปอ. เป็นหน่วยทหารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางหรือกทม. เพราะเป็นจุดที่อ่อนไหว จะมีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้ตลอดทุกเมื่อ จึงต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในการปกครองทุกระดับชั้นในเรื่องระเบียบวินัย เพื่อให้กองทัพมีภาพลักษณ์ที่ดี มีความสง่าเป็นที่ยอมรับของประชาชน ทหารจะต้อง ไม่สร้างเงื่อนไขขึ้นมาเพิ่ม และเป็นทหารอาชีพ ที่มีแข็งแรง มีระเบียบวินัย เชี่ยวชาญงานในหน้าที่ มีคุณธรรมจริยธรรม”
หลังจากนั้นให้สัมภาษณ์นักข่าวกรณีพลทหารลุ่ยพี่ 3 นายสังกัด ร.31 พัน 3 ลพบุรี รุมทำร้ายพลทหารรุ่นน้องจนบาดเจ็บสาหัสมองตาย ว่า
มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ขณะนี้โรงพยาบาลดูแลผู้บาดเจ็บ ตนได้กำชับกับผู้บังคับหน่วยอยู่เสมอในเรื่องการดูแลกำลังพล โดยเฉพาะพลทหาร ประเด็นนี้ทางผู้บังคับกองพันก็ออกมาให้ข้อมูลแล้วว่า เป็นการทำร้ายร่างกาย ก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย และผู้บังคับกองพันก็ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล และอยู่กับญาติๆเพื่อให้กำลังใจ การย้ายโรงพยาบาลตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่หน่วยระดับกองทัพและกองพลจะเข้าไปดูแล พลพลทหาร 3 นายที่เป็นผู้ทำร้ายร่างกาย ในทางวินัยถูกดำเนินการไปแล้ว ตอนนี้ก็ดำเนินคดีทางอาญา ขณะนี้ก็รอผลทางการแพทย์ เพื่อชี้ข้อหา กำลังพลกองทัพบกมีกว่า 200,000 นาย หลายๆเรื่องเป็นเรื่องส่วนบุคคล เมื่อมีกำลังพลกระทำความผิด เราก็ดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอนอยู่แล้ว ไม่มีการปกป้องใคร ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ก็ได้กำชับทุกหน่วยในเรื่องของทหาร ที่จะต้องสร้างมาตรฐานที่ดีกับสังคม โดยเฉพาะเรื่องการสร้างเงื่อนไขต่างๆ
matemnews.com
24 สิงหาคม 2561