ตอนเดือนมกราคมปี 1974 ที่ราบสูงหวงถู่ (ดินเหลือง) ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีน พี่น้องชาวเหลียงเจียเหอ เริ่มเตรียมการเพื่อฉลองตรุษจีน สี จิ้นผิง เพิ่งได้รับการเลือกตั้งให้เป็นเลขานุการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สาขาหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ฝ่ายกองการผลิต ในตอนนั้น นายสีจิ้นผิง คิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะเปลี่ยนโฉมหน้าของเหลียงเจียเหอได้อย่างไร
วันหนึ่ง ขณะที่สี จิ้นผิงพลิกอ่านหนังสือพิมพ์ ได้พบรายงานข่าวสองชิ้นที่ลงในหนังสือพิมพ์เหรินหมิน ฉบับวันที่ 8 มกราคม ปี 1974 ข่าวที่ดึงดูดสายตาสี จิ้นผิงอย่างมาก มีเนื้อหาเกี่ยวกับการที่มณฑลเสฉวน ซึ่งห่างจากเหลียงเจียเหอกว่าพันลี้ ชาวบ้านมีก๊าซชีวภาพใช้ ตอนนั้นนายสี จิ้นผิงคิดในใจว่า หากเหลียงเจียเหอสามารถใช้ก๊าซชีวภาพในการหุงข้าว ให้แสงสว่างได้ด้วยก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีมากทีเดียว สี จิ้นผิง เป็นคนคิดแล้วก็ทำทันที ท่านตัดสินใจเดินทางไปมณฑลเสฉวนเพื่อหาคำตอบ ระหว่างการดูงานที่มณฑลเสฉวน สี จิ้นผิงยิ่งมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ เมื่อกลับจากมณฑลเสฉวน สี จิ้นผิงได้ตัดสินใจผลิตก๊าซชีวภาพใช้ที่เหลียงเจียเหอ
อุปสรรคมีมากมายเกินคาด อุปสรรคแรกก็คือจะสร้างบ่อทดลองที่ไหน ลานบ้านของชาวบ้านสร้างขึ้นด้วยดินที่ได้จากการขุดบ้านถ้ำ เนื้อดินเกาะตัวกันแบบหลวมๆ ไม่เหมาะที่จะสร้างบ่อก๊าซชีวภาพ ส่วนทางเดินทั้งในและนอกหมู่บ้านก็เกิดขึ้นจากการเดินย่ำของชาวบ้าน ซึ่งเป็นทางเดินเล็กๆ ที่คดเคี้ยว รถขนดินทรายก็ยังเข้าออกไม่ได้ แล้วจะขนส่งวัสดุก่อสร้างอย่างไร นอกจากนี้ชาวบ้านก็พักอาศัยอยู่ค่อนข้างห่างจากกัน เมื่อบ่อก๊าซชีวภาพสร้างเสร็จ จะส่งให้ถึงบ้านชาวบ้านอย่างไร และที่ยากที่สุดคือ ฝาปิดบ่อก๊าซชีวภาพต้องเป็นหินแผ่นหนาใหญ่ ซึ่งเหลียงเจียเหอไม่มีวัสดุแบบนี้
ปัญหาอุปสรรคค่อยแก้ไปทีละข้อ การลงมือทำคือวิธีแก้ เมื่อไม่มีหินที่ต้องการ สี จิ้นผิงก็พาคนไปขุดโคลนหนากว่า 1 เมตร จนขุดพบก้อนหิน เมื่อไม่มีดินทราย ก็พาคนหนุ่มหลายคนไปขุดที่เฉียนหม่าโกว ซึ่งห่างจากหมู่บ้านกว่า 15 ลี้ แล้วแบกกลับมาเป็นถุงๆ เมื่อไม่มีปูนขาว ก็ขอความรู้จากช่างที่มีประสบการณ์ หาหินปูนไปทั่ว และสร้างโรงงานผลิตปูนขาวกันเอง ภายใต้ความตั้งใจและความพยายามของนายสี จิ้นผิง กลางเดือนกรกฎาคมปี 1974 บ่อก๊าซชีวภาพที่มีขนาดความจุประมาณ 8 ลูกบาศก์เมตรก็สร้างเสร็จ แต่ก็เร็วเกินไปที่จะดีใจ เพราะเมื่อท่อส่งก๊าซไม่มีก๊าซออกมา
ท้ายที่สุดพบว่าปัญหาอยู่ที่ท่อส่งก๊าซ สี จิ้นผิงจึงใช้ท่อนเหล็กแทงเข้าไปก็ยังคงไร้ผล จึงใช้แรงกระทุ้งเข้าไปอีกที ปรากฏว่ามีน้ำอุจจาระพ่นกระเซ็นออกมาใส่หน้า แล้วก็ตามมาด้วยเสียงก๊าซที่เริ่มดังขึ้น
สี จิ้นผิงเพียงใช้มือเช็ดหน้าไม่ได้ลุกไปล้างทันที ใจยังคงจดจ่ออยู่กับการปรับแก้ท่อส่งก๊าซ หลังจากนั้นก็ลองเปิดเตาก๊าซชีวภาพ และพอจุดไฟ ภาพที่น่าประทับใจก็ปรากฏขึ้น มีเปลวไฟพุ่งขึ้นจากเตาสูงกว่า 30 เซนติเมตร ลุกโชติช่วงอย่างมีชีวิตชีวา
เมื่อชาวบ้านเห็นข้อดีของการใช้ก๊าซชีวภาพจุดไฟและหุงข้าวแล้ว ก็มีความกระตือรือร้นในการสร้างบ่อก๊าซชีวภาพ กิจการใหญ่ของโลกเริ่มต้นจากรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อย ๆ ประสบการณ์สร้างบ่อก๊าซชีวภาพมีอิทธิพลสำคัญต่ออนาคตของนายสี จิ้นผิง 15 ปีให้หลัง สี จิ้นผิงได้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาเมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน และได้ทบทวนประสบการณ์ของตนว่า “เมื่อครั้งทำงานอยู่ที่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอ อำเภอเหยียนชวน ทางตะวันตกของมณฑลส่านซี การทำให้ชาวบ้านได้รู้จักกับเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพ แม้เป็นผลงานที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก แต่กลับทำให้สัมผัสถึงประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทุกครอบครัวหุงข้าวโดยไม่ต้องใช้ฟืน จุดไฟไม่ต้องใช้น้ำมัน รอยยิ้มบนใบหน้าชาวบ้านยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของปธน.สีจิ้นผิงมาจนถึงทุกวันนี้ ประสบการณ์ครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อนำความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมาใช้ แก้ไขปัญหาปากท้องการดำรงชีวิต ก็จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน”