พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างเป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานก.พ.และหัวหน้าส่วนราชการ ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนเช้าวันที่ 10 ก.ย.2561 ว่า
“การกระจายอำนาจรัฐบาลทำมาโดยตลอด จากเดิมที่ทำจากส่วนกลาง วันนี้เราได้กระจายไปกว่า 200-300 กิจกรรม ให้ท้องถิ่นลงไปทำเอง หลายคนไม่รู้ก็กลับมาด่ารัฐบาล ด่านายกรัฐมนตรี เรื่องถนนในหมู่บ้านชำรุดก็กลับมาด่านายกฯ คนในพื้นที่ไม่โดนด่า ไม่เข้าใจว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของใคร ดังนั้นถ้าเป็นพื้นที่ท้องถิ่นใดไม่ทำ มีการรายงาน หรือแจ้งให้ผมทราบก็จะลงโทษ อย่างที่มีชาวบ้านนุ่งผ้าถุงไปอาบน้ำบนถนน ผมก็ทำให้แล้ว ความจริงเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะต้องมาถึงผม เรื่องนี้มันเกิดจากประชาธิปไตยที่ถูกบิดเบือน แม้พื้นที่เหล่านั้นจะมีการกระจายอำนาจไปถึงท้องถิ่นแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น อบต. อบจ. หรือ เทศบาล นายกฯไม่ได้เป็นคนเลือก แต่ประชาชนเป็นผู้เลือกขึ้นมา ดังนั้นเราต้องสร้างการเรียนรู้ลงไปในพื้นที่ ว่าการจะเป็นประชาธิปไตยจะต้องเลือกคนแบบไหนขึ้นมา ต้องมีความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่ทุกคนเข้าไปรุมแล้ว ไอ้นี่ก็จะไม่ให้ ส่วนกลางก็กลายเป็นเรื่องการหวงงบประมาณ ท้องถิ่นก็ไม่ยอม อยากได้มาเยอะๆ แต่บางอย่างให้ไปก็ยังทำไม่ได้ และไม่ใช่ว่าไม่มีงบประมาณ เก็บภาษีได้ 7หมื่นกว่าล้าน รัฐบาลโปะลงไปอีก 3 แสนล้าน ก็ต้องทำงบ 3 แสนล้านตรงนี้ให้มีคุณภาพ หากไม่พอส่วนกลางก็พร้อมจะเติมงบลงไป เรื่องนี้ต้องเรียนรู้ไม่ใช่จะต่อต้านกันทุกเรื่อง ทุกอย่างมันจะกลับไปที่เดิม กลายเป็นแบบเก่าทั้งหมด มันต้องแยกทีละเรื่อง ถ้าเอาทุกเรื่องมารวมกันองศาก็จะร้อนเกินไป ทุกอย่างอย่าให้มันร้อนเกินไป หรือหนาวเกินไป เราต้องคำนึงถึงผลลัพธ์และความต้องการของประชาชนคืออะไร การกำหนดผลสัมฤทธิ์ เจตนารมย์ทางการเมือง คือต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ทุกเรื่อง ก่อนเลือกตั้งผมอยากให้ท้องถิ่นมีอบรมหรือหลักสูตรต่างๆ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ไม่ใช่เพื่อให้มารักผม เลือกตั้งใครก็ยังไม่รู้ แต่ให้รู้ว่าบ้านเมืองจะต้องไปอย่างไร และอธิบายว่าท้องถิ่นจะต้องทำอะไรกับประชาชน จึงต้องมีการเสวนาลักษณะนี้ในทุกจังหวัด เอาข้าราชการ ประชาชน และท้องถิ่นทุกประเภทมาคุยกัน ไม่เช่นนั้นคุยแต่ละพวกเกิดยาก เพราะไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง วันนี้เราต้องเร่งตรงนี้ภายใน 3 เดือนต้องทำให้เร็ว ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้ก็จะมีเลือกตั้งท้องถิ่น ก็จะติดขัดไปหมด ทุกคนต้องรู้งานของตนเองไม่ใช่ใครสั่งก็พิมพ์ หรือใครให้เซ็นก็เซ็นไปเรื่อย จะติดคุก เพราะกฎหมายไม่เข้าใครออกใคร จึงต้องระมัดระวัง แต่ทำอย่างไรไม่ให้เขาเกลียดขี้หน้าเรา และฝากข้าราชการบอกนายของตัวเองด้วยว่า ไม่ใช่ให้นายเซ็นอะไรแล้วบอกว่าดีไปหมด เพราะเวลาติดคุกเฉลี่ยเท่ากันหมด โดนหมด ตัวอย่างมีอยู่แล้ว นอกจากนี้การเป็นข้าราชการที่ดีแก้ปัญหาทุจริต ซึ่งประเทศไทยมีระบบเครือญาติ แต่ผมไม่มี ไม่ใช่จะดีหรือไม่ดี แต่ผมอายหิริโอตัปปะ จึงไม่ทำ ฉะนั้นใครทำไปหามาลงโทษกัน เราต้องไม่ยอมรับคนโกง ขณะเดียวกันวันนี้ยังมีการสื่อสารผิดบ้าง เช่น บัตรผู้มีรายได้น้อย ย้ำว่าไม่ใช่ประชานิยม และต้องไม่มีปัญหา ขอให้ข้าราชการ ประชาชน นักธุรกิจ ทุกคนร่วมกัน นโยบายและการเมืองต้องสอดประสานกันให้ได้ และต้องได้รัฐบาลที่คิดใหม่ ไม่ใช่คิดแต่ให้นี่ให้โน่น ถ้าอย่างนี้กลับที่เดิมองศาเดียวก็ไม่ได้ ติดลบหมด ทั้งหมดนี้ผมพูดจากประสบการณ์และแนวคิดของผมที่อ่านมหาศาลกว่า 4 ปี วันก่อนที่ดาราผมเขียนอะไรสักอย่าง เขาบอกนายกฯนี้โง่จริงๆเขียนคำว่าสร้าง ก็ผิดใส่ไม้เอก ผมก็เขียนเร็วมือตวัดไปแค่นั้น แต่บอกโง่เป็นควาย ขอโทษ มันน่าโมโหจริงๆ พูดได้ขนาดนี้ ผมไม่เขียนผิดหรอกคำว่า สร้าง ก็สื่อทั้งนั้นแหละที่ถ่ายออกไปให้คนมารุมด่า นั่นแหละคือธุรกิจใช่ไหม น่าโมโห วันนี้ลองเปิดในโซเชียลฯดู แค่เปิดนายกฯไม่สุภาพก็มีข้อมูลออกมาเป็นแถวแล้ว หรือหน้าผมหงิกงอก็หัวเราะกัน มันได้อะไรสักองศาไหม วันนี้สื่ออยากมาถาม ผมไม่ตอบ”
matemnews.com
10 กันยายน 2561