พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังประชุมครม.ที่ห้องโถงชั้นล่าง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล 25 ก.ย.2561 ประเด็นแรก
“การประชุมคสช.หารือว่า ทำอย่างไรในเรื่องการปฏิรูปประเทศ และการทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ เป็นเรื่องของกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะหลังจากนี้ที่จะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ผมจึงพยายามทำวันนี้เพื่อสืบสานงานให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ใช่สืบทอดอำนาจ ผมไม่กลัวแรงเสียดทานจากนักการเมือง หลังได้ประกาศว่าสนใจงานการเมือง เพราะสู้ และอยู่กับทุกคนมากว่า 4 ปี ก็ได้อดทนและพยายามทำความเข้าใจ แต่บางครั้งอาจหงุดหงิดบ้างเป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่ปรับตัวมาโดยตลอด และ 4 ปีถือว่าได้พัฒนามามากควร จะเห็นว่าวันนี้เสียงผมนุ่มนวลขึ้นไม่ดุเดือด พอแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นหรือไม่ได้เป็นอะไรต่างๆจนจำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ตัวเอง เพราะจะตายก่อน เครียดมากๆ ก็จะตายเอง ไม่มีใครตายสักคน เพราะทุกคนมารุมผมคนเดียว แต่ก็รับได้ การที่ผมบอกสนใจการเมือง อย่าไปตีความกันมากนักเลย สนใจการเมืองคือ สนใจว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร สิ่งที่ผมห่วงกังวลคือ สิ่งที่เราทำมาแล้วการปฏิรูปขั้นที่หนึ่ง กฎระเบียบ กฎหมายต่างๆ และยุทธศาสตร์ชาติที่เราทำได้รับความต่อเนื่องหรือไม่ ผมสนใจตรงนั้นมากกว่า ถ้าผมจะเข้าไปมีส่วนร่วม จะเข้าไปได้อย่างไร มาโดยกลไกอะไร ก็ต้องไปดูรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และกฎหมายลูกที่จะออกมาเวลานี้ ผมต้องพิจารณาอีกครั้ง สิ่งสำคัญคือ ทำให้เกิดการปฏิรูปการเมืองให้ได้”
นักข่าวถามว่า ถ้ามีพรรคการเมืองเสนอชื่อให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งท่านจะรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า
“ผมต้องเป็นสมาชิกใครหรือเปล่า แล้วจะไปร่วมกับเขาแค่ไหนอย่างไร และการที่ผมจะเป็นนายกฯ จะมาได้อย่างไร เรื่องเหล่านี้ต้องดูใหม่ทั้งหมด และต้องศึกษาเพราะไม่ใช่นักการเมืองมาก่อน อีกทั้งการที่ใครจะเป็นนายกฯ จะทำให้บ้านเมืองสงบได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งสิ้น ที่ต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือใครคนใดคนหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง และการมองว่าครม.สัญจรและการลงพื้นที่เป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น ผมก็พูดหลายครั้งแล้วว่า เป็นการทำงานตามแผนงานที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้ลงเอาเงินไปแจกแต่อย่างใด”
นักข่าวถาม ท่าน มีความสบายใจหรือไม่หลังประกาศว่าสนใจการเมือง ตอบ
“สบายใจมาตลอด ทำไมต้องมาสนใจกับผมมากมาย รักหรือเป็นห่วงหรืออย่างไร ต้องสบายใจ เพราะเคยบอกว่า ผมอยู่ด้วยแรงศรัทธาในการทำงานของตัวเอง และศรัทธาในคณะทำงานและรัฐบาลของผม หากไม่สร้างแรงศรัทธา ไม่สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันอะไรๆ ก็ไม่เกิด จะทะเลาะเบาะแว้งกันทั้งหมด อีกทั้งผมไม่ได้ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน เพียงแต่กำหนดนโยบายลงไป และต้องทำให้สอดคล้องกับนโยบาย จึงต้องระมัดระวังเรื่องการทุจริต ผมก็ได้รับคำถามจากผู้นำชาติอื่นๆ เหมือนที่สื่อถาม ว่า จะเล่นการเมือง หรือเป็นนักการเมืองต่อ และลงเลือกตั้งหรือไม่ ผมก็ไม่ได้ตอบ แต่ระบุเพียงว่า เป็นเรื่องของสถานการณ์ภายในประเทศของเรา แต่ละประเทศก็มีการบริหารของตนเอง โดยอยู่ภายใต้หลักการประชาธิปไตย”
นักข่าวถาม ท่านจะสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบทันทีว่า
“ยังไม่ตอบ การที่คนของรัฐบาลไปช่วยก็ไม่ได้ทำให้ระบบอะไรเสียหาย และหากไม่ผิดกฎหมายก็ทำได้หมด ทุกรัฐบาลก็ทำมาแบบนี้ รัฐบาลก่อนๆ มีหรือไม่ หากมีก็จบ มาถามอะไรผม”
นักข่าวถามรุก รัฐบาลชุดนี้อาจถูกมองเรื่องความเหมาะสม เพราะเป็นรัฐบาลพิเศษที่มาจากการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถาม
“ใครจะฟ้อง คุณจะฟ้องผมเหรอ แล้วทำไมไม่มองว่ารัฐบาลนี้ที่ไม่ปกติเข้ามา แล้วบริหารราชการจนได้รับการยอมรับจากต่างประเทศและทั่วโลก ทำไมไม่มองตรงนี้ รัฐบาลจากเลือกตั้งทำได้แบบที่ผมทำไหม แก้ปัญหา ปลดล็อคอุปสรรคต่างๆ ได้ไหม รัฐบาลเลือกตั้งที่ผ่านมาทำได้แบบที่ผมทำหรือไม่ ที่แก้ปัญหาต่างๆ ในประเทศ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่รัฐบาลคิด ผมไม่ได้ทำเพื่อเอาใจใคร แต่ทำให้ทุกคนเข้าถึงโอกาส นี่คือความเท่าเทียมด้วยกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายหรือพื้นฐานอะไรเลยก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่จะตอบแทนใครก็ตอบแทนไป มันไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดมาทาบทาม จะมีพรรคไหนมาทาบทามหรือไม่ก็ไม่ทราบ และหากมาทาบทามจะรับหรือไม่ก็ยังไม่รู้ ขอดูก่อน ส่วนจะมีโอกาสหรือไม่ ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”
matemnews.com
25 กันยายน 2561
