Home ข่าวทั่วไปรอบวัน เผยรายละเอียดบันทึกแจ้งข้อหาพิชัยต้มกบ

เผยรายละเอียดบันทึกแจ้งข้อหาพิชัยต้มกบ

2280
0
SHARE

ตามที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน รัฐบาล พรรคเพื่อไทย  ได้ไปพบเจ้าหน้าที่ ปอท.เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2560 ได้แจ้งข้อหาทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14  ที่เผยแพร่สถานการณ์ต้มกบนั้น  บันทึกแจ้งข้อหามีรายละเอียดดังนี้

 

 

แจ้งบันทึกข้อกล่าวหา

กก.๓ บก.ปอท

วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐

บันทึกนี้ จัดทำขึ้นเพื่อแสดงว่า วันนี้ (๔ ส.ค. ๖๐) เวลา ๑๐.๐๐ น. พ.ต.ท. กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.๓ บก.ปอท., ร.ต.อ.หญิงวลัญชรัชฏ์ คำแก่น รอง สว.(สอบสวน) กก.๓ บก.ปอท. ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อายุ ๕๕ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๘๘/๙ ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ  โดยกล่าวหาว่าเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ส่วนการข่าวตรวจพบขอความของบัญชี facebookชื่อ “PichaiNaripthaphan”ปรากฏตาม

๑.        http://www.facebook.com/pichai.naripthaphan ปรากฏภาพโปรไฟล์เป็นภาพ นายพิชัย นริพทะพันธุ์

๒.       http://www.facebook.com/pichai.naripthaphan.๗(ไม่ปรากฏโพสต์ และภาพ โปรไฟล์)

๓.        http://www.facebook.com/profile.php?id=๑๖๒๕๔๕๒๓๙๓(ไม่ปรากฏโพสต์ และภาพโปรไฟล์)

๔.        http://www.facebook.com/Pichai-Naripthaphan-๑๗๔๗๓๘๐๕๙๘๙๙๐๙/ ปรากฏภาพ โปรไฟล์เป็น ภาพนายพิชัย นริพทะพันธุ์

ซึ่งมีเนื้อหาเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อระหว่าวันที่ ๒๖,๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐เวลากลางวัน พบการโพสต์ข้อความปรากฏตาม Urlมีเนื้อหา

“พิชัย นริพทะพันธุ์” แนะคนไทยโดดออกจากหม้อต้มกบกันเถอะ

“พิชัย นริพทะพันธุ์”แนะ ”บิ๊กตู่”ฟัง”สมคิด”ก่อนประเทศไทยจะถอยหลังไปกว่านี้ เตือน ความเลื่อมล้ำจะยิ่งทำแตกแยก

ชี้ สัญญาณกบต้มจะเริ่มชัดชึ้นเรื่อย

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เผยแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อตอนเช้าวันที่ ๒๖ ก.ค. ๖๐ ว่าอยากให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาคำพูดของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ที่บอกว่า ”ประเทศที่หลับใหล ติดยึดอดีต จะเผชิญความเสี่ยงกับความถดถอยที่ยากจะหลีกเลี่ยง” จึงอยากถามว่าปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในภาวะเช่นนี้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นภาวะการเมืองหลัวปฎิวัติที่ไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ รัฐธรรมนูณที่ย้อนยุคที่จะมี ส.ว.ลากตั้ง นายกคนนอก ฯลฯ แนวคิดที่จะทำลายพรรคการเมือง และนักการเมืองเพื่อรักษาอำนาจ อีกทั้งโรดแมปก็ยังเลื่อนลอยไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน แนวคิดการบริหารราชการที่ติดยึดอดีตใช้ระบบข้าราชการเข้าครอบงำ แม้กระทั่งการบริหารเศรษฐกิจที่กรอบคิดยังไม่พัฒนา เช่น จะพัฒนาไทยแลนด์ ๔.๐ แต่กลับปิดกันความคิดเห็นและความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งรัฐบาลยังทำตัวผู้ควบคุมและเป็นอุปสรรคขัดขวางกับการพัฒนาเทคโนโลยี่เสียเอง เหมือนที่ TDRI เตือน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี ที่หากรัฐบาลในอนาคตไม่ปฏิบัติตามจะต้องติดคุก ซึ่งถามว่าหากดำเนินยุทธศาสตร์ไปไม่กี่ปี และโลกเปลี่ยนไปแต่ต้องยึดตามยุทธศาสตร์ ๒๐ ปีนี้ จะเป็นการติดยึดอดีตใช่หรือไม่ ไม่อยากให้นำอนาคตของประเทศมาเป็นเครื่องมือเพื่อจะควบคุมการเมือง ไม่ อยากให้ประชาชนคิดว่า คสช. ตั้งใจจะตั้งคณะกรรมการยุทศาสตร์ที่คล้ายกับเป็นโปริตบูโรเหมือนจีน และโซเวียตขึ้นมาเพื่อควบคุมประเทศ แต่จะเป็นโปริตบูโรที่ดูแลผลประโยชน์ของคนรวยมากกว่าจะช่วยเหลือประชาชนส่วนใหญ่ที่รายได้น้อย ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลหากกรอบคิดของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ไม่พัฒนา ซึ่ง ๓ ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าประเทศได้ถดถอยไปมากแล้ว การเติบโตทางเศรษฐกิจ ๓ % กว่า และต่ำสุดในอาเซียนที่ทีมเศรษฐกิจกับรัฐบาลภูมิใจนั้น หากดูรายละเอียดจะเห็นว่า การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไปกระจุกอยู่กับบริษัทใหญ่และคนมีฐานะดี เพราะบริษัทในตลาดกลักทรัพย์กำไรกันถึง ๙๐๙,๐๐๐ ล้านบาท โตกว่าปี ๒๕๕๘ ถึง ๓๐.๔๑% ซึ่งแปลว่าบริษัทใหญ่ๆเหมาเอาความเจริญเติบโตของประเทศไปทั้งหมดแล้ว คนจนถึงมีรายได้ติดลบและลำบากกันอย่างมาก ซึ่งตอกย้ำปัญหาความเลื่อมล้ำและจะสร้างปัญหาสังคมให้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยเป็นห่วงว่าคนจนจะทนกันไม่ไหว อีกทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นว่าโครงการประชารัฐมีแต่จะทำให้คนรวยยิ่งรวยขึ้นแต่คนจนไม่ได้ประโยชน์อะไร รัฐบาลอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกหลอกให้เอื้อประโยชน์ให้กับคนรวยไม่กี่คนซึ่งจะตอกย้ำช่องว่างของความเลื่อมล้ำให้ขยายกว้างขึ้น และจะสร้างความเสี่ยงให้สังคมแตกแยกมากขึ้นเป็นความแตกแยกที่ไม่ได้เกิดจากการเมือง แต่เกิดจากโครงสร้างทางสังคมแล้เศรษฐกิจที่ถูกบิดเพี้ยนไปโดยใช้รัฐบาลเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ธุรกิจ SME ก็เจ๊งกันระนาว แม้แต่ร้านอาหารยังต้องปิดกันกว่า ๒๖๐๐ แห่ง ทำให้หนี้เสียในระบบธนาคารเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งรวมถึงหลายบริษัทได้เบี้ยวหนี้ BE กันเพิ่มขึ้น รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ลดตำสุดในรอบ ๑๐ เดือน สะท้อนถึงการลงทุนภาคเอกชนที่ยังไม่มีทิศทางจะฟื้น ยิ่งวันเลือกตั้งไม่แน่นอนยิ่งไม่มีใครอยากลงทุน ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณที่อันตราย หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไข สภาวะเศรษฐกิฐจะค่อยถดถอยไปเรื่อยๆ เป็นเหมือนกบอยู่ในหม้อต้มน้ำที่ค่อยๆเดือดตามทฤษฎีกบต้ม ดังนั้นหวังว่ารัฐบาลไทยและคนไทยจะรู้ตัว และเป็นกบที่โดดออกได้ทันก่อนภาวะน้ำต้มจะเดือด

ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่บิดเบือน เป็นข้อความเท็จที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเป็นข้อความที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิฐของประเทศ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือต่อการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิฐของประเทศ โดยที่ผู้ต้องหาได้รู้อยู่แล้วว่าข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวเป็นข้อความที่บิดเบือน และเป็นเท็จที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเสียหายต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ผู้ต้องหายังนำมาเผยแพร่ หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลทางคอมพิวเตอร์นั้นอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ ๒๕๕๐ มาตรา ๑๔ (๑),(๒),(๕)

เหตุเกิดที่กองบัญชาการกองทัพบก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ และเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกันทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๒๖,๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เวลาประมาณ ๑๑.๓๒ น. เป็นการกระทำความผิดฐาน” นำข้อมูลและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,นำเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศความปลอดภัยสาธารณะความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๔(๑),(๒),(๕)  พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทราบด้วยว่า ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหารับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้วขอให้ถ้อยคำ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

อนึ่ง ในการแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนผู้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาได้ทำไปภายในขอบเขตอำนาจของกฎหมาย มิได้กระทำผิดกฎหมายแต่อย่างได้อ่านให้ฟังแล้วรับว่าถูกต้องเป็นความจริง จึงให้ลงลายมาชื่อไว้เป็นหลักฐาน

 

(ลงชื่อ)…………………………………………………….ผู้ต้องหา

(ลงชื่อ)……………………………………………………..ทนายความ

(ลงชื่อ)……………………………………………………..ทนายความ

(ลงชื่อ)……………………………………………………..ทนายความ

(ลงชื่อ)พ.ท.ต……………………………………………..รอง ผกก.(สอบสวน)กก.๓ฯ

(ลงชื่อ)ร.อ.ต.หญิง………………………………………..ผู้แจ้งข้อกล่าวหา,บันทึก,อ่าน

 

 

 

 

 

คลิกอ่านข่าวพิชัยโต้หลังโดยแจ้งข้อหา

https://goo.gl/dMHzco

 

Matemnews.com  7 สิงหาคม 2560