Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์ไปดูกำจัดขยะที่บางบาล,อยุธยา

พลเอกประยุทธ์ไปดูกำจัดขยะที่บางบาล,อยุธยา

1312
0
SHARE

 

http://www.thaigov.go.th

นายกรัฐมนตรีแนะให้ขยายการดำเนินการจัดการขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการการกำจัดขยะในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นโครงการนำร่องการพัฒนารูปแบบของการดำเนินการจัดการขยะ ที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน

วันนี้ (7 ส.ค. 60)  เวลา 09.20 น. ณ  ศูนย์การเรียนรู้บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการการกำจัดขยะในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นโครงการนำร่องการพัฒนารูปแบบของการดำเนินการจัดการขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน  โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุ จำนวน 372 ไร่  2 งาน  29 ตารางวา  ใช้งบประมาณในการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทย  จำนวน 368 ล้านบาท  ก่อสร้างระบบฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักวิชาการและขนย้ายขยะสะสม จำนวน 2 แสนตัน

 

กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปรึกษาการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานตามโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ด้วยเทคโนโลยีผลิตขยะเป็นเชื้อเพลิงและก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าจากการกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีการเผา  กำลังการผลิตไฟฟ้า  ขนาด 3.8 เมกกะวัตต์  สำหรับแนวทางการบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจรของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีดังนี้  การกำจัดขยะต้นทาง ได้แก่ 1. การสร้างจิตสำนึกและวินัยในการจัดการขยะมูลฝอยให้แก่นักเรียนและเยาวชนให้สถานศึกษาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 2. การรณรงค์ประชาสัมพันธ์และฝึกอบรมให้ความรู้ สร้างความตระหนักและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการลดคัดแยกขยะมูลฝอยที่ต้นทาง โดยใช้หลัก 3R  ลดการใช้  และคัดแยกของเสียอันตรายจากชุมชน  การจัดการขยะกลางทาง ได้แก่ 1. การส่งเสริมการนำกลับไปใช้ประโยชน์ เช่น การทำน้ำหมักชีวภาค 2. การคัดแยกและเก็บขนขยะแต่ละประเภทนำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ การกำจัดขยะมูลฝอยปลายทาง ได้แก่ 1. กำจัดขยะมูลฝอยอย่างครบวงจร มีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด  โดยการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิงและผลิตพลังงาน 2. เป็นศูนย์รวบรวมของเสียอันตรายจากชุมชน   3. ติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม  เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม

 

สำหรับการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่มุ่งสู่คุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี  เป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบของประเทศ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน  ควบคู่กับอยุธยาเมืองมรดกโลกเป็นสวนป่ากลางเมือง ใช้สอยประโยชน์ร่วมกัน เป็นสวนป่าประชารัฐเพื่อความสุขของคนไทยใช้พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย  โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นบ่อฝังกลบขยะมูลฝอย  จำนวน 132 ไร่  พื้นที่ปลูกป่า 80 ไร่  โรงไฟฟ้า 73  ไร่  และบ่อบำบัดน้ำเสีย เก็บกักน้ำจำนวน 10 ไร่

 

ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า  การบริหารจัดการขยะจะต้องมีการจัดทำแผนแม่บทบริหารจัดการขยะทั้งประเทศ ซึ่งวันนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ได้มีการนำร่องรูปแบบการดำเนินการจัดการขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน  ต้องขยายการดำเนินการออกไปให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคและทุกพื้นที่เพื่อสร้างแผนบริหารจัดการจัดขยะ  ให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้  ทุกภาคส่วน ภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องร่วมมือกันจึงจะประสบความสำเร็จ รวมถึงภาครัฐต้องสร้างแรงจูงใจให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะ โดยออกมาตรการจูงใจต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันปัญหาขยะถือเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ  ต้องแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับพื้นที่  โดยเฉพาะขยะอุตสาหกรรมต้องมีวิธีการบริหารจัดการที่เหมาะสม รวมถึงปัญหาขยะในครัวเรือนจะต้องแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง คือการคัดแยกขยะ  พร้อมกับสร้างจิตสำนึก สร้างการรับรู้  ปลูกฝังตั้งแต่เด็กให้เกิดความเคยชินในการคัดแยกขยะ  และนำขยะที่คัดแยกไปรีไซลเคิลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่  สำนักโฆษก

 

Matemnews.com  7 สิงหาคม 2560