นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2561 ว่า ตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนดให้รถโดยสารปรับอากาศที่วิ่งให้บริการประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เก็บค่าโดยสารในอัตรา 13 – 25 บาท แต่ที่ผ่านมา ขสมก.จัดเก็บค่าโดยสารในอัตราเพียง 11 – 23 บาท เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการดูแลภาระค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางให้กับประชาชนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 ปัจจุบัน ขสมก.อยู่ระหว่างการพัฒนาการให้บริการรถโดยสารตามยุทธศาสตร์ของแผนฟื้นฟูกิจกา รด้วยการนำรถโดยสารปรับอากาศรุ่นใหม่ มีเทคโนโลยีทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาวิ่งให้บริการประชาชน ทดแทนรถโดยสารเดิมที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้น โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ ครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 เห็นชอบให้ ขสมก.กำหนดอัตราค่าโดยสารรถปรับอากาศรุ่นใหม่ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ขสมก.จึงขอกำหนดอัตราค่าโดยสารรถปรับอากาศรุ่นใหม่ ทั้งรถโดยสารที่นำเข้ามาวิ่งให้บริการแล้วและรถโดยสารที่กำลังทยอยเข้ามาเพิ่มในอนาคต เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการดังกล่าว
รถโดยสารปรับอากาศรุ่นใหม่ที่ ขสมก.นำมาวิ่งให้บริการประชาชนเป็นรถโดยสารชานต่ำ (Low Floor) มีการออกแบบลักษณะ Universal Design พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้แก่ กล้อง CCTV, ระบบ GPS, ทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์ เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการทุกประเภท ทั้งคนพิการและผู้สูงอายุสามารถใช้บริการรถโดยสารได้อย่างสะดวกปลอดภัย จะเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่กับรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 100 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ปัจจุบันรถโดยสารดังกล่าววิ่งให้บริการในสาย 20, 21, 37,105, 138 และสาย 140
matemnews.com
9 ตุลาคม 2561