กรุงเทพฯ 13 ตุลาคม 2561 – เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย มูลนิธิคีตรัตน์ ร่วมกับองค์กรต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกันจัดงานแสดงดนตรีถวายความรำลึก “49 In Memory-ในความทรงจำนิรันดร์” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เผยแพร่พระเกียรติคุณทางด้านดนตรีให้เป็นที่ประจักษ์และจดจำแก่ชนรุ่นหลัง ตลอดจนสานต่อการพัฒนาวิทยาการด้านดนตรีในประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทยโดยมิได้เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ในด้านการดนตรี นอกจากจะทรงดนตรีเพื่อความสำราญส่วนพระองค์แล้ว ยังทรงใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับประชาชนของพระองค์ในโอกาสต่างๆ ด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีทั้งความไพเราะและเนื้อหาอันมีความหมายลึกซึ้งจรรโลงใจถึง 49 เพลง เช่น พรปีใหม่ ยิ้มสู้ มาร์ชราชวัลลภ รวมถึงเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ให้สถาบันต่างๆ เช่น มหาจุฬาลงกรณ์ เกษตรศาสตร์ จึงกล่าวได้ว่าพระองค์ทรงนำวิทยาการดนตรีตะวันตกเข้ามาในประเทศไทย เป็นสะพานทางวัฒนธรรมที่ทำให้ต่างชาติเห็นถึงพระปรีชาสามารถ และยกระดับการดนตรีให้เท่าเทียมกับอารยประเทศ
งานแสดงดนตรีถวายความรำลึก “49 in Memory-ในความทรงจำนิรันดร์” จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 13-15 ตุลาคม 2561 เวลา 17.00–21.00 น. ณ บริเวณ ควอเทียร์ พาร์ค ชั้น Mศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ภายในงานมีการแสดงดนตรีจากวงดนตรีของไทยและต่างประเทศ มีทั้งวงคลาสสิกและวงแจ๊ส นำโดยวง K.U. Winds วง Dutch Swing College Bandทั้งนี้วง Kasetsart Wind Symphony หรือ K.U. Winds ของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับรางวัลเหรียญทองเกียรตินิยมจากการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ การประกวดดนตรีโลก World Music Contest 2017 ครั้งที่ 18 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ส่วนวง Dutch Swing College Band เป็นวงดนตรีแจ๊สที่มีความเก่าแก่กว่า 70 ปี และได้พัฒนาเอกลักษณ์ทางดนตรีจนมีชื่อเสียงระดับโลก
กิจกรรมวันที่ 13 ตุลาคม มีการบรรเลงเพลงเปิดงานโดย K.U. Winds ร่วมกับ Dutch Swing College Band จากนั้น รศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของงาน และเชิญชวนประชาชนร่วมอธิษฐานจิตน้อมถวายความรำลึก พร้อมเดี่ยวแซกโซโฟนในเพลงแสงเทียนอันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับแรก ก่อนที่จะเริ่ม การจุดเทียนอธิษฐานจิตถวายความรำลึกแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยประชาชนต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ต่อมาเป็นการแสดงดนตรีเดี่ยวจากวง K.U. Winds ต่อด้วยการแสดงเดี่ยวของวง Dutch Swing College Band และ รศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ โดยแนวเพลงหลักที่นำมาแสดงในงานนั้นมาจากบทเพลงพระราชนิพนธ์และบทเพลงแจ๊สที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรด
วันที่ 14 ตุลาคม การแสดงโดยเริ่มจากการแสดงของวง Dutch Swing College Bandร่วมกับ รศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ ต่อด้วยการแสดงของวงคีตเสวี และแขกรับเชิญพิเศษ “กบ-เสาวนิตย์ นวพันธ์” จากนั้นเป็นการแสดงของวง K.U. Winds
วันที่ 15 ตุลาคม การแสดงเริ่มโดยการแสดงของวง K.U. Winds ต่อด้วยการแสดงของวง Dutch Swing College Band ร่วมกับ รศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ ภายหลังการแสดงจบลง มร.เกส ปีเตอร์ ราเดอ เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรเนเธอแลนด์ ประจำประเทศไทยได้ขึ้นมอบดอกไม้ให้แก่ รศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ และตัวแทนจากวง Dutch Swing College
นอกจากนี้ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้ทางดนตรีแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุมัติจัดตั้งอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2562 ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระราชประวัติ และพระปรีชาสามารถทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความรู้ด้านดนตรี ตลอดจนการทดสอบมาตรฐานทางดนตรีให้แก่เยาวชน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทั้งยังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของกรุงเทพมหานครตอนเหนือ โดยพร้อมกันนี้จะมีการจัดตั้ง “กองทุนพัฒนาดนตรี” เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนและบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ทางดนตรีแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตลอดจนเสริมศักยภาพทางดนตรีของภาควิชาดนตรีให้มีความก้าวหน้าและได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้ มูลนิธิคีตรัตน์ได้มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางดนตรีแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจะประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกันในอนาคต