ในช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา บรรยากาศการท่องเที่ยวไทยก็คึกคัก ทั้งภาคเหนือและอีสาน นักท่องเที่ยวออกเดินทางขึ้นไปสัมผัมลมหนาว และทะเลหมอกกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะจุดชมวิวชื่อดังต่างๆ จำนวนมากเช่นเดียวกันกับ “ภูบักได” จังหวัดเลย
ขอบคุณภาพจาก Junyoung Kungwuu
หลังจากที่ทางอำเภอภูเรือได้มีการจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอำเภอภูเรือ ประจำปี 2561 นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางไปท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชาวบ้าน ชาวไร่ กันที่ “บ้านน้ำทบ” ตำบลปลาบ่า อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย กันอย่างล้นหลาม เพราะที่นี่มีการรวมตัวกันของชุมชนเกษตรกรรม พร้อมทั้งนำนักท่องเที่ยวนั่งรถอีแต๊ก แบบวิถีชาวไร่ ขึ้นไปเที่ยวยังบริเวณยอดเขา “ภูบักได” ที่ตั้งอยู่หลังจากหมู่บ้านน้ำทบ
นางละเอียด ทองปั้น ประธานชมรมลูกภูบักไดบ้านน้ำทบ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว ภูบักได นั้นจะได้สัมผัสวิถีความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ชาวไร่อย่างแท้จริง เริ่มต้นจากการนั่งรถอีแต๊ก และระหว่างทางจะได้เห็นพืชไร่ของเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็น ต้นยางพารา ไร่ขิง แก้วมังกร กล้วย หรือ เสาวรส ทั้งหมดสามารถแวะถ่ายรูป และชิมผลิตผลได้ตลอดสองข้างทาง หรือเป็นการนั่งทานข้าวกลางป่า โดยทางกลุ่มแม่บ้านเราจะมีอาหารท้องถิ่นไว้ให้นักท่องเที่ยวพกไปทานบนเขา ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเหนียวอั่วหมู นึ่งไก่ใต้น้ำ ป่ามไข่ น้ำพริก เป็นต้น
ขอบคุณภาพจาก Pa’Petch Phommarin
จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเดินป่าขึ้นเขา ชมธรรมชาติระหว่างทางไปใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง ไปพร้อมๆ กับไกด์ท้องถิ่นที่น่ารักเป็นกันเอง หรือเราเรียกว่า คนนำทาง และนิยมถ่ายรูปกับ “ผาหลอกหลวง” ทำให้ภูบักไดได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ซึ่งความสูงของ “ภูบักได” มีความสูงราวๆ 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นการเปิดประสบการณ์การเดินป่าให้กับตัวเอง ที่นี่เหมาะแก่การมากางเต้นท์ เพราะหากวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส รับรองว่าหลังจากที่คุณตื่นมา จะได้พบกับทะเลหมอกที่จะออกมาทักทายตอนเช้าอย่างแน่นอน สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือเราจะมีการมัดจำขยะให้นักท่องเที่ยวนำขยะลงมาทิ้งที่หมู่บ้าน ไม่สร้างภาระบน ภูบักได
ขอบคุณภาพจาก Napasorn Angsuchaikij
ขอบคุณภาพจาก Aun Jc
เมื่อนักท่องเที่ยวลงมาด้านล่างจะผ่าน “น้ำตกห้วยซา” ธารน้ำเล็กๆ ที่ไหลมาจากบนภูบักได สามารถลงเล่นน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจได้ก่อนกลับหมู่บ้าน และอาจจะได้พบกับ “ปูเจ้าพ่อหลวง” หรือชาวบ้านเรียกกันว่าปูหิน ปูน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้ชุมชนยังมีสินค้างานฝีมือ หมวกต้นกก ไม้กวาดดอกหญ้า และ ย่ามใส่ของ ไว้เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย
ขอบคุณภาพจาก Junyoung Kungwuu
อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวท่านใจสนใจที่จะมาสัมผัสอากาศเย็นๆ และความงามจากธรรมชาติ สามารถติดต่อเข้ามาจองคิวคนนำทางล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 0864142669 หรือ 0959571930 และทางเพจ ภูบักได ใครๆ ก็เที่ยว https://www.facebook.com/PhuBakDai