Home ข่าวทั่วไปรอบวัน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เอื้อนเอ่ยในเวลาราชการ พปชร.ถึงเวลาเชิญพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เอื้อนเอ่ยในเวลาราชการ พปชร.ถึงเวลาเชิญพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ

568
0
SHARE

ในเวลาราชการ เช้าวันที่ 13 ธ.ค.2561 ก่อนเข้าประชุม ครม.นอกสถานที่  ที่จังหวัดหนองคาย  นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์คณะผู้สื่อข่าวในเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ  โดยเริ่มต้นจากประเด็น  เมื่อมีการปลดล็อกการเมืองแล้ว 4 รัฐมนตรีในพรรค พปชร.พร้อมเดินหน้าทำงานการเมืองตามกรอบที่เหมาะสม โดยไม่ใช้เวลาในตำแหน่งหน้าที่ไปใช้ประโยชน์ต่อพรรค ซึ่งพรรค พปชร.พร้อมในการหาเสียงเลือกตั้ง และจะเริ่มทยอยเดินหน้างานของพรรค เช่น การเปิดนโยบาย เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เป็นต้น ยืนยันว่าจะลาออกจากตำแหน่งแน่นอนเมื่อถึงเวลา เพราะต้องการลงมาทำงานการเมืองเต็มตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ยังมีงานที่ต้องทำอยู่ในตอนนี้  เวลานี้พวกเราคล้ายกับการอยู่ในสนามรบ จึงต้องเคลียร์งานให้แล้วเสร็จก่อนลาออก เราไม่ได้มองว่าแม้ลาออกก็โดนด่า ไม่ลาออกก็โดนด่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62 เมื่อถึงเวลาเราไปแน่นอน แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด การทำไพรมารีโหวตเพื่อสรรหาผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องมีการหารือกันในพรรคอีกครั้ง แต่ช่วงนี้แกนนำพรรคต่างมีภาระจำนวนมาก จึงไม่มีโอกาสได้คุยกัน และยังไม่ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นผู้ที่มีการคาดการณ์กันว่าจะถูกเสนอชื่อ  วันนี้เมื่อมีการปลดล็อกการเมืองแล้ว คิดว่าก็น่าจะถึงเวลาที่จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แล้ว เพราะส่วนตัวไม่เคยคุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประยุทธ์ มีเพียงการพูดคุยกันเรื่องงาน  การจัดทำนโยบาย คิดว่าหลายนโยบายของรัฐบาลนี้ควรได้รับการสานต่อและพัฒนาต่อยอด เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งไม่ใช่การแจกเงินคนจนอย่างที่มีการกล่าวหา เพราะเมื่อประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอ ก็ต้องเติมให้ประชาชน เราต้องการสร้างสังคมประชารัฐ คนจะอดตายอยู่แล้ว คุณไม่เติมให้เขาได้ยังไง ต้องเติมให้ จากนั้นจึงให้เขาพัฒนาตัวเอง จึงต้องมีการต่อยอด จากที่ตอนนี้ผู้ถือบัตรมี 11.4 ล้านคน เราต้องมาดูว่าครอบคลุมหรือไม่ ขณะเดียวกัน ต้องช่วยมนุษย์เงินเดือนด้วย จึงต้องมีนโยบายอย่างกองทุนบำนาญเอกชน เราต้องการชูเรื่องหลักประกันชีวิต เพราะทุกอาชีพมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น นอกจากนี้ ยังต้องมีนโยบายด้านนวัตกรรม การเพิ่มพื้นที่พัฒนากระจายเศรษฐกิจด้วยการสร้างเมืองใหม่ เป็นต้น”

matemnews.com

13  ธันวาคม 2561